RJH - ซื้อ

RJH  - ซื้อ

ถูกสุดในกลุ่ม

ราคาหุ้นของ RJH ถูกที่สุดในกลุ่ม ด้วย PER ปี 2561 ที่ 28.4 เท่า ซึ่งต่าที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มการแพทย์ที่เราให้ค่าแนะน่าและต่ากว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 36.2 เท่าอยู่มาก บริษัทยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการก่าไรจากการเข้าซื้อบริษัทย่อยซึ่งจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 2/61 ทั้งนี้ เรายังคงค่าแนะน่า “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ประเมินด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสดที่ 35.5 บาท (WACC 7.5% และ terminal growth rate 2.0%)

แนวโน้มก่าไรไตรมาส 1/61 เติบโตดี

เราเชื่อว่า RJH จะทารายได้เติบโตแข็งเกร่งที่ 20% YoY และ 3% QoQ ในไตรมาส 1/61ซึ่งจะถือเป็นไตรมาสที่ทารายได้สูงเป็นอันดับสองตั้งแต่ที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน กอปรกับการแพร่ระบาดของไวรัสโรต้า รวมถึงการที่โรงพยาบาลได้รับผลประโยชน์จากนโยบายเงินจ่ายประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค. 2560 นอกจากนี้จานวนสมาชิกประกันสังคมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยังขยายตัวเพิ่มขึ้น 6% YoY และ 1% QoQ มาอยู่ที่ 171,000 คน เราคาดว่าปัจจัยทั้งหมดดังกล่าวจะหนุนให้ RJH สามารถทากาไรเติบโต QoQ และ ปรับตัวดีขึ้น YoY แม้ว่าฐานสูงในไตรมาส 1/60 (จากเครดิตภาษี 29 ล้านบาทจากโรงพยาบาลราชธานี-โรจนะ)

ผลกระทบจากเคสส่งตัวผู้ป่วยโรคหัวใจจากโรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี (จากเดิมเฉลี่ย 50 เคส/เดือน ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2560 มาอยู่ที่ 30 เคสในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2561) ไม่ได้มากนักเนื่องจากรายได้จากผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลภัทร-ธนบุรีคิดเป็นเพียง 1% ของรายได้ทั้งหมดของ RJH อย่างไรก็ตาม RJH ก็พยายามชดเชยด้วยการหาเคสผู้ป่วยเพิ่มจากโรงพยาบาลอื่นใกล้เคียงอีก 4 แห่ง จึงทาให้จานวนเคสส่งตัวผู้ป่วยโรคหัวใจปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสาคัญตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. 2561 จนถึงปัจจุบัน

แผนธุรกิจปี 2561-เพิ่มขีดความสามาถในการรองรับผู้ป่วย

ในปี 2561 ศูนย์ MRI และ ศูนย์ไต (Hemodialysis Center) แห่งใหม่จะหนุนให้ RJH เข้าใกล้เป้าหมายที่จะเป็นโรงพยาบาลที่มีขีดความสามารถระดับตติยภูมิ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 15% ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเรา และเมื่อกลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา RJH ได้เปิดศูนย์ MRI ซึ่งเป็นศูนย์ MRI แห่งแรกในจังหวัดอยุธยา (ใช้นโยบายส่วนแบ่งรายได้) จานวนผู้มาใช้บริการต่อเดือนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 22 รายในเดือน ม.ค. มาอยู่ที่ 86 รายในเดือน ก.พ. และ 78 รายในกลางเดือน มี.ค. (บริษัทตั้งเป้า 160 รายต่อเดือนในปี 2561) นอกจากนี้บริษัทวางแผนที่จะขยายจานวนเตียงผู้ป่วยใน 18% YoY ทาให้จานวนเตียงทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเป็น 258 เตียงในไตรมาส 3/61 เพื่อรองรับอุปสงค์ทางการแพทย์ที่แข็งแกร่งในไตรมาสดังกล่าว ในส่วนของศูนย์ไตแห่งใหม่จะเปิดดาเนินการในไตรมาส 4/61 โดยจะเปิดเพิ่มอีก 16 ยูนิต (เพิ่มขึ้น 59% จาก 43 ยูนิต
ณ สิ้นปี 2560)

มูลค่าเพิ่มจากการเข้าซื้อ RRH

RJH จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงพยาบาลราชธานี-โรจนะ (RRH) จาก 54% เป็น 100% ซึ่งคาดว่าการเข้าซื้อจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยในเดือนเม.ย. 2561 โดยต้นทุนในการเข้าซื้อดังกล่าวอยู่ที่ 435 ล้านบาท (RJH ใช้เงินกู้ 87% และเงินสดภายในอีก 13%) ซึ่งไม่เป็นปัญหาสาหรับบริษัท เนื่องจาก RJH ขณะนี้มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยสถานะเงินสดสุทธิ ณ สิ้นปี 2560 รวมถึงภาระดอกเบี้ยจ่ายที่จะเพิ่มขึ้นนั้นไม่มากนักที่ราว10 ล้านบาทต่อปี (อัตราดอกเบี้ย 3%) การเข้าซื้อ RRH เพิ่มเติมในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ RJH เนื่องจาก RRH ถือเป็นสินทรัพย์ในการดาเนินงานซึ่งพลิกกลับมาทากาไรในปี 2560 ที่ 54 ล้านบาท (คุ้มทุนในปี 2559) และยังมีศักภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงราคาเข้าซื้อไม่แพงโดย PER ปี 2560 ของ RRH ที่ 31.5 เท่า ต่ากว่าค่า PER ของ RJH อยู่ 3% เราคาดว่าการเข้าซื้อดังกล่าวจะเป็นอัพไซด์ต่อกาไร 3% ในปี 2561 (เริ่มในครึ่งหลังปี 2561) และเพิ่มขึ้น 6% ในปี 2562 ซึ่งยังไม่ได้สะท้อนในประมาณการของเรา