นายกฯ ยึด 3 ข้อ หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-ออสเตรเลีย

นายกฯ ยึด 3 ข้อ หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-ออสเตรเลีย

"นายกฯ" กล่าวถ้อยแถลง ในการ "ประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย" เน้นความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ต้านก่อการร้าย ร่วมสร้างความมั่นคงไซเบอร์เพื่อพัฒนากติกาสากล

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน – ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ 2018 แบบเต็มคณะ ในหัวข้อ “การส่งเสริมความมั่นคงและความมั่งคั่ง ในภูมิภาค” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลียว่า การส่งเสริมความมั่นคงและ ความมั่งคั่งในภูมิภาค แบ่งเป็น 3 วาระ ได้แก่ การมีส่วนร่วมระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย การส่งเสริมหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและออสเตรเลีย และความร่วมมือเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสากลระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลีย

พล.ท.วีรชน บอกอีกว่า การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย เพื่อสร้างความมั่นคง และความมั่งคั่งในภูมิภาคให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐาน 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. ความใกล้ชิด ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันได้พัฒนาเชิงบวกในทุกมิติ 2.อาเซียนและออสเตรเลียมีผลประโยชน์ร่วมกัน เชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยกลุ่มประเทศขนาดกลางควรหันหน้าเข้าหากัน เพื่อช่วยให้อินโด-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่เปิดกว้าง อยู่บนพื้นฐานของกติกาที่จะรักษาผลประโยชน์ และเคารพสิทธิของทุกฝ่าย และ3.การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านการศึกษา และความมั่นคงของมนุษย์

ส่วนการส่งเสริมหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและออสเตรเลียนั้น  พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกฯ เสนอว่าอาเซียนควรให้ ความสำคัญกับการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และด้านดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมศักยภาพ และโอกาสของผู้ประกอบการ MSMEs และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความยั่งยืน สำหรับการก่อการร้ายสากลการเผยแพร่ลัทธิและแนวคิดที่ยึดหลักความรุนแรง และแนวคิดสุดโต่งที่นิยมใช้ความรุนแรง ถือเป็นภัยคุกคามข้ามพรมแดนที่สำคัญ โดยไทยเห็นควรส่งเสริมความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง เสริมสร้างระบบการบริหารจัดการชายแดนในอาเซียนและภูมิภาค นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้เสนอให้ อาเซียนและออสเตรเลียร่วมมือกันสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และมีส่วนร่วมในการพัฒนากฎกติกาสากล