คำสั่งซื้อเก็งกำไรหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (16มี.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวขึ้น  จากคำสั่งซื้อเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนจับตาปัจจัยการเมืองสหรัฐ และแนวโน้มการทำสงครามทางการค้า ขณะที่การซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท มีความผันผวน เนื่องจากเป็นวันครบกำหนดส่งมอบออปชั่น  สัญญาล่วงหน้า รวมทั้งออปชั่นล่วงหน้าของหุ้นหลายตัว

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 72.85 จุดหรือ 0.29% ปิดที่ 24,946.51 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 4.68 จุดหรือ 0.17% ปิดที่ 2,752.01 จุด  และดัชนีแนสแด็กบวก 0.25จุด หรือ 0%  ปิดที่ 7,481.99 จุด

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรสทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

สื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจปลดพลโทเฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แมคมาสเตอร์ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ รวมทั้งอาจมีการปลดพล.อ.จอห์น เคลลี หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว ออกจากตำแหน่ง ซึ่งการปลดนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เนื่องมาจากความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยปธน.ทรัมป์ได้แต่งตั้งนายไมค์ พอมเพโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ให้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายทิลเลอร์สัน และให้นางจีน่า แฮสเปล รองผอ.ซีไอเอ ขึ้นเป็นผอ.คนใหม่

นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังแถลงว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันพุธที่แล้วที่ระบุว่า สหรัฐได้แจ้งให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยให้ปรับลดลง 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่ที่จริงแล้ว ปธน.ทรัมป์ต้องการบอกให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ 1 พันล้านดอลลาร์

ทั้งยังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยเมื่อปีที่แล้ว จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวน 3.752 แสนล้านดอลลาร์

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 โดยตัวเลขส่งออกไปยังจีนดิ่งลง 28.1% ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9%