‘กาเกา’รุกบริการขนส่งอาเซียน-ญี่ปุ่น

‘กาเกา’รุกบริการขนส่งอาเซียน-ญี่ปุ่น

“กาเกา” บริษัทอินเทอร์เน็ตของเกาหลีใต้ขยายบริการขนส่งไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น หลังพบอุปสรรคด้านกฎเกณฑ์ในตลาดบ้านเกิด

นายจอหน์ ชุง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของกาเกา โมบิลิตี ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจด้านการขนส่งของ “กาเกา” กล่าวว่า มีแผนเปิดบริการรถลีมูซีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่าน “อีซีซิกซ์” (easi6) สตาร์ทอัพเกาหลีใต้ที่ให้บริการขนส่งในภูมิภาคดังกล่าว กาเกาซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจาก “กาเกาทอล์ค” แอพพลิเคชั่นแชทยอดนิยม ลงทุนไป 700 ล้านวอนในบริษัทเมื่อเดือนธ.ค. 2560

“ในฮ่องกง ไต้หวัน และเวียดนาม มีบริการขับรถรับส่งอยู่แพร่หลาย เราจึงได้ลงทุนในผู้ดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์ม อีซีซิกซ์ ซึ่งนำเสนอบริการนี้ และจะทำให้ลูกค้าของเราใช้บริการอย่างสะดวกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

นายชุง เผยด้วยว่า อีกไม่นานนี้ นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ในญี่ปุ่นจะสามารถเรียกแท็กซี่ผ่านพันธมิตรอย่าง “เจแปน แท็กซี่” ซึ่งมีเครือข่ายแท็กซี่ 60,000 คัน โดยบริการร่วมนี้จะเริ่มในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะสามารถใช้บริการเรียกแท็กซี่ของกาเกาในเกาหลีใต้ ที่มีสมาชิกคนขับแท็กซี่ 240,000 คน

ซีอีโอกาเกา โมบิลิตี กล่าวว่า นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่อันดับต้นๆ ในญี่ปุ่น บริษัทคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้น เนื่องจากกรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกในปี 2563

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจเอ็นทีโอ) ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้มาเยือนประเทศ 7.14 ล้านคัน เป็นรองเพียงนักท่องเที่ยวจีนซึ่งอยู่ที่ 7.35 ล้านคน

ปัจจุบัน กาเกากำลังดิ้นรนสร้างผลกำไรผ่านบริการการขนส่งในตลาดบ้านเกิด เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของประเทศ รัฐบาลเกาหลีใต้ห้ามไม่ให้เปิดบริการแชร์รถผ่านแอพพลิเคชั่นอย่าง “อูเบอร์ เทคโนโลยีส์” ที่ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากจากบรรดาคนขับแท็กซี่

อย่างไรก็ตาม กาเกา ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่อันดับ 2 ของเกาหลีใต้ มองว่าบริการรับส่งส่วนบุคคลเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด นอกเหนือจากธุรกิจแชร์แท็กซี่และคนขับรถส่วนตัวแล้ว บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังบริการที่จอดรถและจีพีเอส

นายชุง ระบุว่า บริษัทยังสนใจเข้าซื้อกิจการของสตาร์ทอัพรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ และจะตั้งห้องปฏิบัติการที่มีเจ้าหน้าที่ 20 คน เพื่อศึกษาเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วย

บรรดานักวิเคราะห์มองว่า บริการรับส่งจะช่วยกระตุ้นผลประกอบการของกาเกา เนื่องจากขณะนี้เริ่มสามารถทำกำไรได้แล้ว