พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี การใช้กระบวนทางกฎหมายตรวจสอบโครงการวิจัยและพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตาม MOU ระหว่างกองทัพบก โดยสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก (สวพ.ทบ.) กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อพัฒนาและสนับสนุนนักวิจัยจากสถาบันการศึกษาในประเทศ รวมถึงการนำผลการวิจัยที่ได้ไปสู่การผลิตให้หน่วยราชการในแบบพึ่งพาตนเอง ซึ่งงบประมาณในส่วนการวิจัยโครงการนี้ ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท ทางสำนักงานคณะกรรมการ การอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ในขั้นการประเมินผลโครงการวิจัยพบความไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับเรื่องเอกสาร คือใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ทีมวิจัยนำมาใช้เป็นองค์ประกอบ ปรากฏว่าเป็นเอกสารปลอม จนไปมีผลต่อกระบวนการบริหารงานราชการของกองทัพบก จึงได้มีการยุติโครงการและได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก (ผอ.สวพ.ทบ.) ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยของกองทัพบกโดยตรง ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม ในเรื่องของการใช้เอกสารปลอมไว้ก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนการดำเนินการในเรื่องคดีความ คงเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่ ซึ่งแต่ละฝ่ายสามารถไปแก้ต่างกันได้ตามเอกสารพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่มีปรากฏ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวย้ำว่า ในกรณีที่มีการร้องเรียนจากภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพล ไม่ว่าจะในประเด็นใดก็ตาม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจะให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและสอบสวนหาข้อเท็จจริงในทันที ซึ่งปกติหากผลออกมาพบว่ามีกำลังพลบกพร่องจริง จะมีการดำเนินการในทางวินัยอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันว่ากองทัพบกให้ความสำคัญและยังคงพร้อมสนับสนุนทีมนักวิจัย หรืองานวิจัยต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จากทุกหน่วยงาน
