ทส. ร่วมกับ ก.ท่องเที่ยว ลงนาม MOU พัฒนา 3 เกาะจ.สุราษฎร์ธานี

ทส. ร่วมกับ ก.ท่องเที่ยว ลงนาม MOU พัฒนา 3 เกาะจ.สุราษฎร์ธานี

ทส. ร่วมกับ ก.ท่องเที่ยว ร่วมลงนาม MOU ในการที่จะร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (15 มี.ค.61) พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นาย วิชวุทย์จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และข้าราชการหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งใน อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน ร่วมทั้ง เกาะเต่า ซึ่งเป็นพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ ที่มีความสำคัญทางได้การท่องเที่ยวของ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันลงนาม MOU ร่วมกัน ณ.ห้องประชุมเทศบาลนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในการที่จะร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติใต้ท้องทะเล ธรรมชาติบริเวณชายหาด และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของผืนป่าเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ยังมีความอุดมสมบูรณ์สร้างจุดขายทางด้านการท่องเที่ยวอย่างยังยืน ให้กับ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาเข้ามาท่องเที่ยว ยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในประเทศ เกิดความประทับใจ จนนำสู่การสร้างได้ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศได้อย่างยังยืน

พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ทางด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ และให้เกิดคุณค่าโดยเฉพาะทางด้านการท่องเที่ยว จะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรักษา ทรัพยากรธรรมชาติ ให้มากเป็นพิเศษ ในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนรวม 22 หน่วยงาน ในพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ได้มีการร่วมลงนามMOUร่วมกันในการที่ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความสวยตลอดไป เพื่อเป็นจุดขายให้กับการท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ ของอ่าวไทย และที่สำคัญให้ที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยวทางทะเล ดำน้ำดูปะการัง หรือว่าการท่องเที่ยวริมชายหาด และธรรมชาติบนภูเขา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยว จะต้องตระหนักในเรื่องของความอนุรักษ์ธรรมชาติ จากนี้ไปทางกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จะมีการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ให้ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่หากยังมีผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือ หรือยังกระทำการฝ่าฝืน ก็จะต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้ เพื่อเป็นการลงโทษ ต่อผู้ที่ฝ่าฝืน ตามขั้นตอนต่อไป

ทางด้าน นายวีระศักดิ์โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้เริ่มมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว แบบอนุรักษ์ธรรมชาติ ให้เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ เริ่มเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางเขามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น การท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากจะเป็นการช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการกระจ่ายรายได้ ให้กับผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติได้อีกด้วย โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเอง เห็นว่าในทุกวันนี้ คงมียอดนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเขาท่องเที่ยวในประเทศจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ที่จะเดินไปท่องเที่ยว ก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เช่นการดำน้ำ ผักผ่อนริมชายหาด และแหล่งท่องเที่ยวที่สัมผัสธรรมชาติของฝืนป่า เช่นภูเขา และน้ำตกซึ่งการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่จะส่งเสริมให้การท่องเที่ยวของประเทศได้มีความมั่นคง และยังยืนต่อไปในอนาคต