วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 มี.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 มี.ค.61)

น้ำมันดิบเพิ่มเล็กน้อย จากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังลดมากกว่าคาด

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังปรับลดมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังสหรัฐ ปรับตัวลดลง 6.3 และ 4.4 ล้านบาร์เรลตามลำดับ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากโรงกลั่นน้ำมันเริ่มทำการปิดซ่อมบำรุง

+ เศรษฐกิจจีนที่ยังคงแข็งแกร่งช่วยสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันดิบ โดยตัวเลขภาคอุสาหกรรมการผลิตในเดือน ม.ค. และ ก.พ. ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 7.2 จากเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า และคาดการณ์ว่าตัวเลข GDP จะอยู่ในระดับ 6.5 เท่ากับปีที่แล้วเนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับสูงขึ้น

 

- OPEC คาดการณ์ปริมาณน้ำมับดิบจากฝั่งผู้ผลิตนอกกลุ่มจะปรับเพิ่มขึ้น 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2561 ซึ่งปริมาณน้ำมันดิบส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่สูงขึ้นจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจีนที่เร่งการผลิตน้ำมันเบนซินเพื่อให้ปริมาณการส่งออกเทียบเท่ากับโควต้าการส่งออกของภาครัฐ

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่ปรับตัวลดลงในช่วงโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุง รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลจากศรีลังกาที่เพิ่มขึ้น

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 59 - 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 62 - 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มี.ค. 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 425.9 ล้านบาร์เรล
  • กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย EIA คาดปริมาณการผลิตของสหรัฐ ในปี 2561 จะปรับเพิ่มขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สู่ระดับเฉลี่ยที่ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และขยายตัวสู่ระดับ 11.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐ แซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก
  • จับตาสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย หลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Feel กำลังการผลิตอยู่ที่ 70,000 บาร์เรลต่อวัน ยังคงปิดดำเนินการ แม้ว่าแหล่งข่าวเผยว่าได้มีการเจรจาตกลงที่จะเปิดดำเนินการแหล่งน้ำมันดังกล่าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 340,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งหยุดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการประท้วงเกี่ยวกับปัญหาทางด้านมลพิษ สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติแล้ว

----------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

        โทร.02-797-2999