Retail Market Monitor (15 มี.ค.61)

ตลาดโลกแกว่งตัว หุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงต่อเป็นวันที่ 3 จากความวิตกสงครามการค้าที่กลับมากดดันตลาดอีกครั้งหลังประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้จีนวางแผนลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯลง และอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น สินทรัพย์เสี่ยง โภคภัณฑ์และพันธบัตรสหรัฐฯ เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ระหว่างรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจและมุมมองดอกเบี้ยในอนาคต ล่าสุดดัชนีค้าปลีกปรับลดลงเป็นเดือนที่ 3 ต่อเนื่องกัน

เราประเมินหุ้นไทยมีโอกาสเผชิญความผันผวนจากแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1815-1830 จุด จากหุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงานอาจเริ่มเคลื่อนไหวได้จำกัดหลังปรับเพิ่มขึ้นพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มชื้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามกลุ่มหุ้นที่ Laggard หลายกลุ่มเริ่มกลับมาน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นบันเทิง รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงหุ้นรายตัวที่ให้ปันผลสูง TISCO, LH, AP, MCS เรามองทยอยสะสมกลุ่มธนาคารที่คาดมีโอกาสรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/61 ดีขึ้น โดยเรามองความชัดเจนจากการเลือกตั้ง เป็นจุดเปลี่ยนและ upside risk ที่สำคัญของตลาดในระยะต่อไป

Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวออกข้างสามารถตัวเก็งกำไรได้ แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง  // หุ้นแนะนำ SCC, EASTW*, MBK*, MAJOR

แนวรับ 1807 / แนวต้าน : 1820 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือน ก.พ.ชะลอมากกว่าคาด– ยอดค้าปลีกสหรัฐฯชะลอตัวลงมากกว่าคาด และเป็นการชะลอตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน (ครั้งแรกในรอบ 6 ปี) โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของยอดขยรถยนต์

Angela Merkel ดำรงตำแหน่งนายกฯของเยอรมนีเป็นสมัยที่ 4– สภาเยอรมนนีลงมติให้นาง Angela Merkel ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 4 ด้วยคะแนนเสียง 364 จาก 399 เสียง ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างพรรค CDU, CSU และ SPD

กลุ่มรับเหมา – มีโอกาสกลับมาได้รับความสนใจ หลังผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด ขณะที่โครงการใหม่เริ่มมีพัฒนาการ รฟม.เร่งผลักดันรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินมูลค่า 2 แสนลบ.เข้าครม 20 มี.ค.และเปิดประมูลไตรมาส 2/61 ทางคู่เดนชัย-เชียงราย-เชียงของ เข้าเม.ย. ขณะที่สายสีส้ม 8.5 หมื่นลบ.เข้า พ.ค.-มิ.ย.

กลุ่มบันเทิง – เรามองเชิงบวกและมองโอกาสเก็งกำไรต่อการคืนคลื่นความถี่ใน 1) กลุ่มที่มีโอกาสลดต้นทุนจากการถือใบอนุญาตมากกว่า 1 ใบ ทั้ง BEC และ MCOT และ 2) กลุ่มผู้เล่นใหม่ที่แข็งแกร่งที่การแข่งขันจะลดลงจากการคืนคลื่น อาทิ WORK, MONO

MILL (Not rated) – เพิ่มทุน PP 200 ล้านหุ้น ที่ 1.50 บาท / ปันผลเป็นหุ้น 15:1 และแจก MILL-W5 / เพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป 400 ล้านหุ้น

 

ประเด็นติดตาม: 21 มี.ค. US – FOMC meeting, 28 มี.ค. TH – ประชุมนโยบายการเงิน (กนง.), 30 มี.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)