ดาวโจนส์ทรุดกว่า200จุด

ดาวโจนส์ทรุดกว่า200จุด

ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการสื่อสาร รวมทั้งอาจมีการจำกัดการออกวีซ่าต่อชาวจีนที่ต้องการเดินทางเข้าสู่สหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (14มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ยังคงร่วงลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 200 จุด  ขณะที่นักลงทุนกังวลการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนและตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของสหรัฐ

 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง  248.91 จุดหรือ 1 % ปิดที่ 24,758.12 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 15.83 จุดหรือ 0.57% ปิดที่ 2,749.48  จุดและดัชนีแนสแด็กลบ 14.20 จุดหรือ 0.19% ปิดที่ 7,496.81 จุด

ทั้งนี้ หุ้นโบอิ้งดิ่งลงกว่า 4% จากความกังวลที่ว่าโบอิ้งอาจตกเป็นเป้าหมายตอบโต้ของทางการจีน หากสหรัฐประกาศทำสงครามการค้ากับจีน

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2555 ที่ยอดค้าปลีกลดลง 3 เดือนติดต่อกัน โดยยอดค้าปลีกปรับตัวลง 0.1% ในเดือนก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ปรับตัวลง 0.1% ในเดือนม.ค.

ยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงในเดือนก.พ. ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของยอดขายรถยนต์ แต่เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนก.พ.

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. หลังจากทรงตัวในเดือนม.ค.

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งการดีดตัวขึ้นของดัชนีพีพีไอ ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ