‘กสิกร’ดัน4บริษัทขายไอพีโอปีนี้

‘กสิกร’ดัน4บริษัทขายไอพีโอปีนี้

บล.กสิกรไทย เตรียมเข็น 4 บริษัทเข้าจดทะเบียนปีนี้ แจงยังมีบริษัทใหญ่เข้าระดมทุนต่อเนื่อง มูลค่าระดมทุนเกิน หมื่นล้านบาท

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทได้รับเลือกเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้ 4 บริษัท โดยคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในกลางปีนี้

บริษัทที่จะเข้าระดมทุนมีขนาดการระดมทุนที่ใหญ่ในระดับเดียวกับปีก่อน ดังนั้น หากคิดเป็นมูลค่าการระดมทุนก็น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ประมาณ 1.58 หมื่นล้านบาท

“ในปีนี้แผนของบล.กสิกรไทยยังนำบริษัทขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าการระดมทุนอยู่ในระดับเดียวหรือมากกว่า บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดมทุนในปีที่ผ่านมา ระดับ 23,999 ล้านบาท”

ทั้งนี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่บริษัทเตรียมจะนำเข้าจดทะเบียนในปีนี้ คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรีเทล ธุรกิจไฟแนนซ์ และกลุ่มเฮลธ์แคร์ สาเหตุที่บริษัทเน้นผลักดันกลุ่มดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ เพราะบล.ประเมินว่า ภาพของเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงการฟื้นตัว ในขณะที่การเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้น จะช่วยสร้างความคึกคักให้กับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนบริษัทที่อยู่ในแผนการนำเข้าจดทะเบียนในขณะนี้มีทั้งสิ้น 6-7 บริษัท โดยจะทยอยเข้าจดทะเบียนในปี 2562 ประมาณ 5-7 บริษัท

ทิศทางของหุ้นไอพีโอ มองว่าจะมีขนาดการระดมทุนที่ลดลงมาอยู่ที่ 3,000-8,000 ล้านบาท และจะเป็นในกลุ่มต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเข้าระดมทุนในอนาคตมองว่าจะอยู่ในกลุ่มที่ประเทศไทยโดดเด่น ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศและกลุ่มเฮลธ์แคร์

สำหรับความพร้อมทีมวาณิชธนกิจ จะเน้นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อหาบริษัทที่มีความพร้อมเข้าระดมทุน ซึ่งประเมินว่ายังมีโอกาสอีกมาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีทีมงานด้านวาณิชธนกิจทั้งสิ้น 17 คนและผ่านการปิดรายการหุ้นไอพีโอแล้ว จึงมีความพร้อมที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียน ความท้าทายของการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนจะเป็นเรื่องของกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึง มาตรฐานบัญชีใหม่ที่จะบังคับใช้ในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบกับบางอุตสาหกรรม

ภาวะตลาดไอพีโอในประเทศไทยยังได้รับการตอบรับที่ดี จากสภาพคล่องของตลาดหุ้นอยู่ในระดับที่สูง ทำให้การซื้อขายหุ้นนั้นง่ายมากขึ้น และในขณะเดียวกัน กลุ่มนักลงทุนมีความรู้ในการลงทุนมากขึ้น เลือกลงทุนในหุ้นไอพีโอที่มีคุณภาพ ในภาวะหุ้นไอพีโอ ที่ต่ำจองในปีก่อน บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบริษัทมีการสำรวจความต้องการของผู้ที่ต้องการลงทุน และให้ส่วนลดที่เหมาะสม โดยเฉลี่ยบริษัทให้ส่วนลดกับผู้ลงทุนจากราคาที่เหมาะสมประมาณ 15-20%