วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 มี.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 มี.ค.61)

น้ำมันดิบร่วง หลังสหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับตัวลดลง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับที่ 2 ของโลกรองจากรัสเซีย

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า นายไมค์ ปอมเปโอ ผอ.สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ หรือ ซีไอเอ จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแทนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ที่ถูกปลด ทำให้ตลาดเกิดความกังวลในเสถียรภาพของรัฐบาลสหรัฐ และนโยบายข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านและการเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือ

- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) ประกาศตัวเลขน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ ปรับลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลง 4.3 ล้านบาร์เรล โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในจีน อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานจากยุโรปที่เข้ามายังตลาดเอเชีย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลเพื่อทำความร้อนยังคงอ่อนตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ปรับตัวลดลงในช่วงโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 59 - 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 62 - 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มี.ค. 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 425.9 ล้านบาร์เรล
  • กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย EIA คาดปริมาณการผลิตของสหรัฐ ในปี 2561 จะปรับเพิ่มขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สู่ระดับเฉลี่ยที่ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และขยายตัวสู่ระดับ 11.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐ แซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก
  • จับตาสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย หลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Feel กำลังการผลิตอยู่ที่ 70,000 บาร์เรลต่อวัน ยังคงปิดดำเนินการ แม้ว่าแหล่งข่าวเผยว่าได้มีการเจรจาตกลงที่จะเปิดดำเนินการแหล่งน้ำมันดังกล่าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 340,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งหยุดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการประท้วงเกี่ยวกับปัญหาทางด้านมลพิษ สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติแล้ว

---------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999