โออีซีดีแนะทั่วโลกร่วมแก้ปัญหาเหล็กล้นตลาด

โออีซีดีแนะทั่วโลกร่วมแก้ปัญหาเหล็กล้นตลาด

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ระบุว่า รัฐบาลของชาติต่างๆควรทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหากำลังการผลิตที่มากเกินไปในตลาดเหล็ก และหลีกเลี่ยงการทำสงครามการค้า

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า จนทำให้เกิดความวิตกกันว่าจะเกิดการทำสงครามการค้าตอบโต้กัน

นอกจากนี้ ประเทศตะวันตกยังได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาเหล็ก เนื่องจากอุปสงค์ลดลง และการผลิตที่เพิ่มขึ้นในจีน ซึ่งทำให้เกิดการปลดแรงงานในอุตสาหกรรมเหล็ก ขณะที่ราคาตกต่ำลง

โออีซีดี ระบุว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหากำลังการผลิตล้นตลาดคือ การปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการค้าระหว่างประเทศภายใต้องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)ทั้งยังระบุว่า มาตรการกีดกันทางการค้ายังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนและการจ้างงาน

 โออีซีดี เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในประเทศสมาชิกจำนวน 35 ประเทศในกลุ่มยังทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนม.ค. โดยในยูโรโซน อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.6% ส่วนสโลวีเนีย และเนเธอร์แลนด์ลดลงสู่ระดับ 5.9% และ 4.2% ตามลำดับ ขณะที่อัตราการว่างงานในอิตาลีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.1% ส่วนเยอรมนีและฝรั่งเศสทรงตัวที่ระดับ 3.6% และ 9.0% ตามลำดับ

โออีซีดี ระบุด้วยว่า อัตราการว่างงานของผู้ที่อยู่ในวัย 15-24 ปี ลดลงสู่ระดับ 11.4% และโดยรวมแล้ว ประชากรในโออีซีดี จำนวน 34.5 ล้านคนมีงานทำ ซึ่งมากกว่า 1.9 ล้านคนเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.2551 ก่อนเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก