'หนุ่ม กะลา' โร่มอบตัวตำรวจ เหตุละเมิดลิขสิทธิ์เพลง'ยาม'

'หนุ่ม กะลา' โร่มอบตัวตำรวจ เหตุละเมิดลิขสิทธิ์เพลง'ยาม'

 “หนุ่ม กะลา” โร่มอบตัวตำรวจ สน.บางเขน ตามหมายเรียกครั้งที่ 2  หลังนำเพลง “ยาม" ของวงลาบานูน มาร้องตามงานคอนเสิร์ต ระบุเข้าใจผิด คิดว่าต้นสังกัด "แกรมมี่" ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงมาแล้ว

จากกรณีที่นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” นักร้องชื่อดัง ถูกศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับที่ จ.99/2561 ลงวันที่ 8 มี.ค. 61 ในความผิด ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า ด้วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณชน ซึ่งงานดนตรีกรรมหรือโสตทัศนวัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายหลัง “หนุ่ม กะลา” หรือ นายณพสิน แสงสุวรรณ ไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่ ร้านคลับ อินซอมเนีย ถนนวอล์คกิ้งสตรีท ต.หนองปรือ อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และนำเพลง ยาม ของลาบานูนไปร้องในร้านและในสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ อีกหลายครั้งหลายสถานที่ โดยไม่ได้มีการขออนุญาตกับทางเจ้าของลิขสิทธิ์แต่อย่างใดนั้น

ต่อมาช่วงเย็นวานนี้ (วันที่ 12 มี.ค. ) “หนุ่ม กะลา” หรือ นายณพสิน แสงสุวรรณ ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ 2537 ในมาตราที่ 27 ที่กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 15(5) ได้แก่การทำซ้ำหรือดัด แปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณะ มาตรา 28 กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์หรือสิ่งบันทึกเสียงอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 29 (3) จัดให้ประชาชนฟังหรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นในทางการค้า ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  ที่ สน.บางเขน  -  เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 มี.ค.2561  นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือหนุ่ม กะลา อายุ 36 ปี นักร้องชื่อดัง พร้อมนายทวีทรัพย์ หลักคำ อายุ 30 ปี ผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สมพร สะตะ สารวัตร (สอบสวน) สน.บางเขน หลังมีหมายเรียกของ สน.บางเขน ให้มาพบพนักงานสอบสวนครั้งที่ 2 เนื่องจากพบว่ามีการนำเพลง “ยาม” มาร้องในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านวัชรพล ( ร้านห้าแยก วัชรพล ) แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ 

นายณพสิน เปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ผมได้นำเพลงยามไปร้องต่างงานโชว์ต่างๆ ประมาณ 47 ที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.60 จนกระทั่งวันที่ 8 ม.ค.61 ก่อนอื่นต้องขอโทษที่พลาดทำผิดในครั้งนี้ เพราะเกิดจากการเข้าใจผิดของตัวผมเองว่า ทางแกรมมี่ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงนั้นมาแล้ว เนื่องจากเป็นการเข้าใจผิด เห็นว่า “ลาบานูน” ย้ายมาอยู่ที่แกรมมี่ จึงคิดว่ามีการซื้อลิขสิทธิ์เพลงมา ผมจึงนำเพลงไปเล่นโดยไม่รู้ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมทราบเรื่องเมื่อวันที่ 10 ม.ค.61 ว่ามีการแจ้งความเกิดขึ้นโดยมีการแจ้งความไปแล้วกว่า 40 ที่ เมื่อทราบดังนั้น จึงหยุดเล่นเพลงดังกล่าวทันที ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมพร้อมที่จะยอมรับความผิดตั้งแต่ที่ทราบเรื่อง

นายณพสิน  กล่าวอีกว่า ผมต้องออกมาพูด เนื่องจากว่ามีบางกระแสออกมาว่า ทำไมผมถึงปล่อยให้มีหมายจับออกมา เรื่องนี้ต้องขอชี้แจงว่า ตั้งแต่วันแรกที่ทราบว่ามีการแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่ามีการออกหมายเรียก ผมได้เข้าไปพบช่วงปลายเดือน ม.ค.  ก็ได้ให้ทางผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนไปพูดคุย และนัดอีกฝ่ายมาเจรจาตั้งแต่ต้น แต่พี่เขาก็ไม่มา โดยมีการนัดหมายให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ นอกจากนี้ยังพยายามที่จะพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์เพื่อหาข้อยุติเรื่องตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ก็ได้มีการเจรจาเกิดขึ้น แต่ยังหาตัวเลขตรงกลางไม่ได้ ซึ่งผมไม่ได้หนีเลย หากดูจากคิวงานของผมหนีไม่ได้หรอกครับ

นายณพสิน กล่าวอีกด้วยว่า จริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบอย่างมาก เพราะผมต้องทำงานทุกวัน เรื่องสำคัญของการทัวร์คอนเสิร์ต สิ่งที่สำคัญคือต้องนอนให้พอ ผมต้องตื่นเร็วกว่าปกติ เพื่อมาโรงพักก่อน บางครั้งสอบเสร็จ 21.00 น. แล้วต้องขึ้นโชว์ 22.00 น. เวลาอาบน้ำแต่งตัวก็ไม่มี ก็จะทำให้เหนื่อยหน่อย แต่ก็ยอมรับผลที่เกิดขึ้น ต้องทำไปตามขั้นตอน

นายณพสิน กล่าวด้วยว่า ส่วนทางต้นสังกัดก็ได้พูดคุยให้คำปรึกษาตนอยู่ตลอด ไม่ได้มีการทอดทิ้งอะไรผมเลย บางข่าวที่ออกมาว่า ทางค่ายเพลงไม่มาดูแลนั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ ยังดูแลผมอยู่ ก่อนที่ผมจะลงรถมา ก็ยังมีการพูดคุยกันอยู่ ผมมองเรื่องนี้ยกตัวอย่างเช่น ผมทำแกงหกหน้าบ้าน ผมเป็นเด็ก ก็ต้องเก็บกวาดบ้านเอง  มันเป็นเรื่องเล็กกว่าที่ผมจะต้องใช้สังกัดลงมาดู 

เรื่องนี้เกิดขึ้นอยากให้คนไทยตระหนักเรื่องลิขสิทธิ์เพลงมากขึ้น ขนาดศิลปินเองยังโดนฟ้องเหมือนกัน ทำให้สูญเสียเงินจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะกลับไปตรวจสอบว่ามีที่ไหนอีกบ้างที่ตนจะต้องเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งจะพยายามทยอยไปให้ครบทุกที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือหนุ่ม กะลา และนายทวีทรัพย์ หลักคำ ผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่จะพานายณพสิน แสงสุวรรณ หรือหนุ่ม กะลา ออกมาพิมลายนิ้วมือ จากนั้นจึงเดินทางกลับ

 ทางด้าน พ.ต.ต.สมพร เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาเดินทางรับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อย และได้ปล่อยตัวกลับไปโดยไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว เนื่องจากเป็นหมายเรียก อีกทั้งผู้ต้องหาไม่มีพฤติการที่จะหลบหนี ซึ่งหลังจากนี้ได้นัดให้มาพบอีกครั้งในวันที่ 2 เมษายน เวลาประมาณ 10.00 น. เพื่อนำตัวส่งให้อัยการสั่งฟ้องในข้อหาตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ 2537 ในมาตราที่ 27 ที่กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 15(5) ได้แก่การทำซ้ำหรือดัด แปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณะ มาตรา 28 กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์หรือสิ่งบันทึกเสียงอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 29 (3) จัดให้ประชาชนฟังหรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นในทางการค้า ต่อไป