ปักผ้าเติมความคิด คืนชีวิตให้หนังสือ

ปักผ้าเติมความคิด คืนชีวิตให้หนังสือ

ปักผ้าเติมความคิด คืนชีวิตให้หนังสือ

ในวันที่หนังสือครูไหวใจร้าย วรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ที่ได้รับการตีพิมพ์นานถึง 53 ปี กำลังปรับโฉมรูปแบบใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปะการปักผ้ากับศิลปะงานเขียนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างแฟนนักอ่านกลุ่มใหม่ๆ อีกทั้งรายได้จากการจำหน่ายหนังสือเล่มพิเศษนี้ เตรียมนำไปสร้างโรงเรียนทำหนังสือในอนาคต

เป็นเวลา 53 ปีแล้วที่ครูไหวใจร้ายขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในหนังสือดีที่เด็กและเยาวชนไทยควรอ่าน และครองใจคนทุกยุคทุกสมัย วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดีแห่งการปลุกเรื่องราวเหล่านั้นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยลายปักผ้าบนปกงานเขียนของผกาวดี อุตตโมทย์ ผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ผีเสื้อ

วิธีการของหนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างโหดร้าย สำหรับเด็กสมัยนี้นะครับ แต่อ่านไปแล้วสนุกมากแล้วก็ได้ข้อคิดต่างๆ ที่เรานึกไม่ถึง เราถือว่าปักผ้าเป็นศิลปะชนิดหนึ่ง และหนังสือก็เป็นศิลปะ อีกชนิดหนึ่ง การที่เรานำศิลปะทั้งสองอย่างมารวมไว้ในที่เดียวกัน

พวกที่สนใจปักผ้า แต่ไม่เคยอ่านหนังสือเลย ก็เริ่มมาสนใจว่าเอ๊ะ หนังสือมันเป็นยังไง หรืออย่างน้อยที่สุด คนที่จะมาเป็นอาสาสมัครปักผ้า ถ้าเขาไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้เขาปักผ้าไม่ได้ เขาไม่รู้อารมณ์ของตัวละครที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นครูไหว เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องอ่านหนังสือ

เมื่อการตีความจากตัวอักษรให้กลายมาเป็นลายผ้าปัก หน้าที่นี้นักปักผ้าจึงแต่งตัวครูไหวที่ใครๆ ก็ว่าใจร้าย ให้ดูเป็นหญิงสาวสวยตามจินตนาการของเขาเหล่านั้น