TM โชว์กำไรโต 31.44% ปักธงรายได้ปี 61 โตกว่า 660 ล้าน

นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯประจำปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 35.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 31.44% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 26.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 634.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.56 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 13.72% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี 2559 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 558.02 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของทั้งกำไรสุทธิ และรายได้ของบริษัทฯ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้สินค้ากลุ่มอุปกรณ์ และวัสดุสิ้นเปลือง รวมถึงกลุ่มอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ตามความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯได้มีมติในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นจำนวน 0.0812 บาทต่อหุ้น  วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record date) เพื่อรับสิทธิในเงินปันผลคือ วันที่ 4 พ.ค. 2560 (ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 3 พ.ค. 2561) โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 พ.ค. 2561

ในขณะที่ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2561 กว่า 660 ล้านบาท จากความต้องการใช้สินค้ากลุ่มอุปกรณ์ และวัสดุสิ้นเปลือง ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงบริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันบริษัทฯมีฐานลูกค้าที่เป็นโรงพยาบาลรัฐบาลกว่า 550 ราย ทั่วประเทศ และโรงพยาบาลเอกชนกว่า 250 ราย รวมถึงคลินิก หรือสถาบันการแพทย์อื่น ๆ ซึ่งมีการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทฯโดยตรงอีกกว่า 200 รายทั่วประเทศ และที่สำคัญอาคารสำนักงาน และโชว์รูมแสดงสินค้าบนที่ดินของบริษัทฯ จะสร้างแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2561 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย 

“ในปีนี้เราคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตที่ราว 660 ล้านบาท จากความต้องการใช้อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น เสื้อกาวน์สำหรับผ่าตัด ถุงมือผ่าตัดชนิดไร้แป้ง ภาชนะรองรับสารคัดหลั่ง ส่วนแผนการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้า เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันสำนักงาน และโชว์รูมแห่งใหม่ก็จะเปิดดำเนินการได้ในปีนี้ตามแผน จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ และเพิ่มขีดความสามารถในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี” นางสุนทรีกล่าว