กฟภ.แจงเหตุหม้อแปลงระเบิดเผาวอด 2บาร์เบียร์พัทยา

กฟภ.แจงเหตุหม้อแปลงระเบิดเผาวอด 2บาร์เบียร์พัทยา

กฟภ.ชี้แจงเหตุหม้อแปลงระเบิดเผาวอด 2 บาร์เบียร์ย่านวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา นทท.หนีตายอลหม่าน มูลคาความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 10 มีนาคม 2561 เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เหตุเกิดภายในซอย 16 ทัพยา ตัดเข้าถนนคนเดิน วอล์กกิ้งสตรีทพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานนายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุถือเป็นแหล่งเศรษฐกิจมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาเที่ยวผักผ่อน พบเพลิงกำลังลุกไหม้บาร์เบียร์ และรถจยย.อย่างรุนแรง ทั้งพนักงานร้านและนักท่องเที่ยวตางพากันวิ่งหนีตายกันอย่างอลหม่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเร่งระบายนักท่องเที่ยวและกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันอันตราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามฉีดน้ำสกัดเปลวไฟที่โหมลุกไหม้อย่างทุลักทุเล ใช้เวลากว่า 30 นาที่เพลิงจึงสงบลง ตรวจสอบทราบว่าเพลิงได้ไหม้บาร์เบียร์จำนวน 2 ร้าน คือร้านไททานิกบาร์ และ แอนแอนบาร์ ทำให้ทรัพย์สินภายในร้ายเสียหายทั้งมด แล้วลามไปไหม้จยย.ที่จอดอยู่ริมถนนทั้งสองฝั่ง ได้รับความเสียหายทั้งหมด 16 คัน อาคารพาณิชย์ที่อยู่ตรงข้ามซึ้งเปิดเป็นร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านอาหาร ยังได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ที่สำลักควัน 1 รายและได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวก 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้เคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้ว

สอบถามนายศักรินทร์ ขาวโคกกรวด พนักงานร้านไททานิกเล่าว่าเมื่อวานได้มีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าเดินทางมาเปลี่ยนหม้อแปลงไฟใหม่ ขณะที่ตนเองกำลังทำงานอยู่นั้น ได้ยินเสียงหม้อแปลงที่อยู่ข้างร้านระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นก็เกิดเพลิงลุกไหม้ นักท่องเที่ยวที่กำลังใช้บริการอยู่ และนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินผ่านมาต่างพากันตกใจวิ่งหนีกันคนละทิศละทาง ส่วนพนักงานร้านพยายามช่วยกันดับไฟและเก็บของ แต่เพลิงก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนลามไปร้านแอนแอนบาร์ เมื่อเห็นว่าเพลิงเริ่มแรงขึ้นจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงดังกล่าว

เบื้องต้นร.ต.ท.(ญ)เกวลีศิริ ผาสุกธนไพศาล รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนรายงานผู้บังคับบัญชา สาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจนหม้อแปลงเกิดระเบิด ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นน่าจะประมาณ 5 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเดินทางมาตรวจสอบเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ล่าสุด (12มี.ค.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ส่งอีเมล์หนังสือถึง "กรุงเทพธุรกิจ" ขอเรียนชี้แจงว่า หม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นหม้อแปลง ขนาด 315 เควีเอในระบบจำหน่าย 22 เควี รับกระแสไฟฟ้าจากวงจรที่ 9 สถานีไฟฟ้าพัทยาใต้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ  คาดว่าเกิดการลัดวงจรภายใน  ทำให้ เกิดระเบิดเพลิงลุกไหม้ มีร้านค้าบริเวณใกล้เคียงไ้ด้รับผลกระทบจำนวน 3 แห่ง รถจักรยานยนต์ ถูกเพลิงไหม้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยาได้ร่วมระงับเหตุเพลิงไหม้  เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บและให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล รวมทั้งประสานงานเจ้าของร้านค้าให้ตรวจสอบทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะดำเนินการเยียวยาต่อไป

สำหรับการจ่ายกระแสไฟฟ้า  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้แก้ไขและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ ในวันที่ 11 มีนาคม 2561 เวลา 03.00 น. และดำเนินการติดตั้งหม้อแปลง ไฟฟ้าขนาด 250 เควีเอ พร้อมทั้งปรับปรุงระบบจำหน่ายแรงต่ำ เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าส่วนที่เหลือ ในวันที่ 11 มีนาคม 2561 เวลา 14.00 น. 

ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยาจะทำการตรวจสอบและป้องกันปัญหาในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความมั่นคงและปลอดภัยของระบบไฟฟ้าต่อไป