สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่  5 – 9 มีนาคม 2561

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่  5 – 9 มีนาคม 2561

ราคาสินค้าสัปดาห์นี้ ข้าวโพดและข้าว มีราคาเพิ่มขึ้น

ข้าวโพด : ราคาเพิ่มขึ้น
ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สัปดาห์นี้มีน้อยลงมาก ส่งผลให้ราคาข้าวโพด ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์สัปดาห์นี้ปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่มีราคาหาบละ 597 บาท เป็นหาบละ 603 บาท  
ส่วนราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2561 รอบส่งมอบเดือนมีนาคม อยู่ที่ 379.25 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่สูงขึ้น โดยมีการคาดหมายว่า ตัวเลขผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของบราซิล และอาร์เจนตินา อาจต่ำกว่าที่มีการคาดหมายไว้ก่อนหน้านี้  แต่แนวโน้มราคายืนอ่อน เนื่องจากมองว่าตัวเลขส่งออกของสหรัฐอาจลดลง
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนอ่อน

ถั่วเหลือง  : ราคาทรงตัว
ปริมาณถั่วเหลืองสัปดาห์นี้และความต้องการใช้ใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ราคากากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าสัปดาห์นี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่กิโลกรัมละ 15.75 บาท 
ด้านราคาซื้อขายกากถั่วเหลืองในตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2561 รอบส่งมอบเดือนมีนาคม ราคาอยู่ที่ 380.20 ดอลลาร์/ชอร์ตตัน   ส่วนถั่วเหลืองรอบส่งมอบเดือนมีนาคม ราคาอยู่ที่ 1,055 เซนต์/บุชเชล  เป็นราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย แต่คาดว่า อาร์เจนตินาอาจมีภาวะฝนตกที่ดีขึ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ 
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองน่าจะยืนอ่อน

ปลาป่น : ราคาทรงตัว
สถานการณ์ในตลาดโลกขณะนี้ มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลเปรูจะประกาศโควต้าการจับปลาที่ 2.5 –3 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีปริมาณปลาป่นออกมาเยอะ ขณะที่ความต้องการใช้ปลาป่นในประเทศคาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่เกษตรกรจะนำกุ้งเข้าเลี้ยง ส่งผลให้ราคาปลาป่นโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ราคากิโลกรัมละ 56.50 บาท ด้านปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 53.20 บาท และเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน กิโลกรัมละ 50.70 บาท
ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 53.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 กิโลกรัมละ 49.70  บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว


ข้าว : ราคาเพิ่มขึ้น
ราคาข้าวตลาดต่างประเทศโดยรวมสัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยข้าว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. จากราคาตันละ 440 ดอลลาร์ เป็นตันละ 455 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับราคาปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี.ที่ปรับขึ้นจากราคาตันละ 369 ดอลลาร์ เป็นตันละ 374  ดอลลาร์
สำหรับการซื้อขายข้าวตลาดในประเทศ ข้าว 100% ชั้น 2 สัปดาห์นี้ ราคาเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาจากกระสอบละ 1,240 บาท เป็นกระสอบละ 1,280 บาท  ด้านปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสัปดาห์ก่อนที่กระสอบละ 1,000 บาท เป็นกระสอบละ 1,020 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวในประเทศน่าจะทรงตัว

สุกร : ราคาทรงตัว
สภาพอากาศที่ร้อน เป็นปัจจัยที่ทำให้สุกรโตช้า มีตัวเล็กมาก  ขณะที่วัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรขาดทุนมากสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีต้นทุนการเลี้ยงสูงถึงกิโลกรัมละ 60 บาท  โดยสัปดาห์นี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรเพื่อการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช สหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์พัทลุง และผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ จึงตกลงปรับฐานราคาให้ใกล้เคียงกับต้นทุน โดยปรับราคาสุกรหน้าฟาร์มขึ้น 2 บาท ยกเว้นภาคใต้ปรับขึ้น 3 บาท โดยราคาประกาศทั่วประเทศปรับเป็น 43 – 52 บาทต่อกิโลกรัม  และลูกสุกรขนาด 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ตัวละ 1,400บาท (บวกลบ 51)
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้เตรียมแผนผลักดันราคาสุกรขุนขั้นต่ำให้มีผลทางกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ ผ่านพิกบอร์ดที่คาดว่าจะมีการประชุมภายในเดือนมีนาคม ศกนี้  
แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะยืนแข็ง

ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว
การบริโภคเนื้อไก่ชะลอตัว เนื่องจากเข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียนด้านผู้เลี้ยงอิสระได้นำลูกไก่เข้าเลี้ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้มีไก่ใหญ่ออกสู่ตลาดในช่วงเดือนเมษายน   ส่งผลให้ราคาขายไก่เนื้อหน้าฟาร์มสัปดาห์นี้ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่กิโลกรัมละ 32 บาท
ด้านลูกไก่เนื้อราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีราคาตัวละ 11.50 บาท ส่วนลูกไก่ไข่ ราคายืนที่ตัวละ 10.00 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว

ไข่ไก่ : ราคาอ่อนตัว
เนื่องจากโรงเรียนเริ่มปิดภาคเรียน ทำให้การบริโภคไข่ไก่ลดลง ส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากการสำรวจทั่วไปในท้องตลาดอ่อนตัวลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ฟองละ 2.40 บาท  เป็นฟองละ 2.30 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะยืนอ่อน

----------------------------------------
ที่มา... สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ CPF
Tel : (662) 766-7343-5