MORNING CALL ACTION NOTES (9 มี.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (9 มี.ค.61)

รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวรุนแรง จากการอ่อนตัวช่วงเปิดตลาดและ Rebound ก่อนปิดเที่ยงจบด้วยการกลับมาอ่อนตัวอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่อาจก่อให้เกิดสงครามการค้า และปัจจัยหนุนจากการรับร่าง กม.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. โดยกลุ่ม ENERG BANK กดดันหลัก ส่วน HELTH หนุน ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,778.90 จุด (-2.74 จุด) Volume 7.18 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,564.91 ลบ.  TFEX Net +11,746 สัญญา ตราสารหนี้ +334.54 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นแม้ว่า"ทรัมป์"ลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมจากประเทศต่างๆ ยกเว้นเม็กซิโก,แคนาดา

+แบงก์ชาติยุโรปประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% และคง QE ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.

+ยูโรสแตท เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนปี 2560 +2.3%YoY  

+สนช.มีมติเห็นชอบร่างกม.ส.ส.-ส.ว. ส่งต่อนายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ

-น้ำมันปรับตัวลงหลังกำลังผลิตน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นอีก 86,000 บาร์เรลต่อวัน

-จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 231,000 ราย

-ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.พ.อยู่ที่ 79.3 ปรับลงเป็นครั้งแรกรอบ 7 เดือน

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.73 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.37 บาท/USD

**9 มี.ค. จับตาที่ประชุม BOJ แถลงมติอัตราดอกเบี้ย

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับปัจจัยกดดันจากปธน.สหรัฐลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ตามสนช.มีมติเอกฉันท์เห็นชอบร่างกม.เลือกตั้งสส.-สว.เป็นปัจจัยหนุนต่อดัชนี ดังนั้นคาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,771-1,789 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- CPF GFPT จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย

- TVO ราคากากถั่วเหลือง +22%QTD ขณะที่ราคาเมล็ดถั่วเหลืองปรับเพิ่มขึ้นเพียง 11.5%QTD และได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง 

- หุ้นปันผลเด่น ASEFA BAFS CPT CRD FTE GLOW KKP NYT PSH PTTGC SCB SF SIS SMPC SPRC TK TOP WHAUP TISCO QH PDI

- หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 31.37 บาท/$ (ต้นปี 17 อยู่ที่ 34 บาท/$) และราคาทองแดงทรงตัวในระดับสูง 6,915 $/Ton(ต้นปี 17 อยู่ที่ 5,600 $/Ton)

หุ้นแนะนำพิเศษ

SC Analyst Meeting (ราคาปิด 3.78 Bloomberg Consensus 4.90)

  • ผลการดำเนินงานปี 61 มีโอกาสพลิกเติบโตจากที่หดตัวในปี 60 จากที่มีรายได้รวม 12,450 ลบ. ลดลง14% ซึ่งมาจากรายได้จากการโอนคอนโดฯ ลดลง 58% และอัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 35.8% จาก 36.1% ในปี 59 ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง 36% เหลือ 1,259 ลบ. โดยมี backlog 9.7 พันลบ.ราวครึ่งหนึ่งจะโอนในปีนี้ คอนโดฯที่จะเริ่มโอนปีนี้ได้แก่ Saladaeng One มูลค่ารวม 4.7 พันลบ. ขายแล้ว 43% เริ่มโอนพ.ค. และ BEATNIQ มูลค่า 4 พันลบ. ขายแล้ว 52% เริ่มโอน Q3 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 1.7 หมื่นลบ. +37% Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 2 พันลบ. +63%
  • ปีนี้ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขาย presale 1.7 หมื่นลบ. มูลค่า 19 โครงการที่จะเปิดใหม่ปีนี้ 1.9 หมื่นลบ. เดินหน้าแผนเจาะตลาด mass ด้วยบ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ลบ.แบรนด์ PAVE และ Verve แนวคิด “Township” พัฒนาหลายโครงการในที่ดินแปลงใหญ่ การขยายสู่พื้นที่ EEC ในจ.ฉะเชิงเทราปีนี้จะเปิดตัว PAVE บ้านโพธิ์และ PAVE บางปะกง เริ่มใช้ online booking ในการเปิดขายคอนโด รวมทั้งการจัดตั้งบริษทลูก SC Alpha เพื่อลงทุนในอสังหาฯในสหรัฐและขายในอนาคต
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อกำไรปีนี้ที่จะพลิกเติบโตจาก และ Dividend Yield ปีละ 5-6% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER 13 เท่าต่ำกว่าที่อยู่ที่ระดับ 17 เท่า จึงน่าสนใจในการลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล

หุ้นมีข่าว   

·      TPCH Analyst Meeting (อยู่ระหว่างปรับประมาณการลง)

·      รายงานกำไร 4Q60 ที่ 77 ล้านบาทเติบโต 196%QoQ และ 10%YoY แต่กำไรปี 60 อยู่ที่ 208 ล้านบาท +3%YoY เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษราว 60 ล้านบาทคอยกดดันกำไร อย่างไรก็ตามในปี 60 สามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้า PGP กำลังการผลิต 9.2 MW และเลื่อนการดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้า SGP มาใน 1Q61

·      คาดกำไรปี 61 ยังเติบโตจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า PGP และ SGP ในปี 61 แต่โครงการอีก 4 โครงการอาจล่าช้ากว่าแผน โดยโรงไฟฟ้า 3  แห่ง(TPCH1 2 และ 5)ที่กำหนดจะเดินเครื่อง 4Q61 ล่าช้าออกไปถึง 4Q62-1Q63 และโรงไฟฟ้า PTG ที่กำหนดการเดินเครื่อง 1Q19 จะเลื่อนออกไปเป็น 3Q19

·      ความเห็น เรามีแนวโน้มปรับลดมูลค่าเหมาะสมลงเนื่องจากการล่าช้าของโครงการโรงไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อการรับกระแสเงินสดในอนาคตทำให้มีการปรับลดมูลค่าเหมาะสมลง อีกทั้งกำไรปี 61 มีแนวโน้มลดลงลงจากโรงไฟฟ้า TPCH1 2 และ 5 มีความล้าช้า

·      (+) PTTEP บอร์ด กพช.รับทราบหลักการแผนประกาศเชิญชวนเอกชนประมูลแหล่งเอราวัณ-บงกชใน เม.ย.61 คาดเซ็นสัญญาผู้ชนะใน ก.พ.62

·      (-) กลุ่มเหล็ก ผู้ผลิตเหล็กหวั่นเหล็กนอกทะลักเข้าไทย หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก

·      กลุ่มโทรคมนาคม :  TOT  เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งกลับร่างสัญญาเป็นพันธมิตรการให้บริการไร้สายบนคลื่น 2300 MHz ระหว่างบริษัทกับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ให้ปรับปรุงในหลายประเด็น จึงไม่สามารถลงนามในสัญญาพันธมิตรได้ก่อนสิ้นไตรมาส 1 ตามที่คาดไว้ก่อนนี้ อย่างไรก็ตาม คาดร่วมกับ DTAC ส่งหนังสือชี้แจงไดในกลาง มี.ค. 61

·      ความเห็น สำหรับ DTAC ที่เป็นผู้ประกอบการโครงข่ายที่คลื่นในมือใกล้ครบอายุมากสุด มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้ทำสัญญากับ TOT และได้ประมูลคลื่น 900 และ 1800 Mhz ที่ กสทช.มีการชะลอหลักเกณฑ์ไปช่วงก่อนหน้า เป็นผลให้ความไม่แน่นอนในทิศทางธุรกิจปัจจุบันสะท้อนลงไปในราคาหุ้นที่ Uderperform กลุ่ม (YTD -6.6% ADVANC +5.2% TRUE +4%) อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นยังสะท้อน Downside ที่ค่อนข้างต่ำลงเรื่อยๆ คือ เข้าใกล้ช่วงก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นคู่สัญญากับ TOT ที่ 40.25 บาท โดยรวมหากราคาหุ้นถูกกดดันจากประเด็นดังกล่าวแล้ว แนะนำให้ “ซื้อสะสม”