บัวหลวงเชื่อ 'แรงซื้อหุ้นใหญ่' หนุนดัชนี

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า เมื่อวาน ดัชนีฯหุ้นไทย ลงหลุด 1,780 จุด Error ระหว่างวัน 1,772 จุด นำลงโดยหุ้น alpha หรือหุ้นที่เคยเล่นขึ้นได้ดีกว่าตลาด เมื่อช่วงก่อนหน้านี้ เช่น BGRIM ORI JMART CENTEL (โดนไล่เช็คบิล มาทีละตัว)

รอบนี้ ถ้าดัชนีฯมีโอกาสที่จะสร้างฐานได้ คาดต้องอาศัยแรงซื้อหุ้น บูลชิพประเภท Defensive & Domestic แทนหุ้น Alpha ที่โดนเทขายแรง (คาดหุ้น Alpha ทั้งหลายน่าจะใช้เวลาสักระยะในการกลับขึ้นไปใหม่)

กลุ่ม Outperform ได้แก่ บูลชิพ-บิ๊กแคป ในกลุ่ม Defensive & Domestic ค้าปลีก มือถือ โรงพยาบาล โรงไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนหุ้นที่มีความไม่แน่นอนจาก US Protectionism อาทิ Export oriented ตลอดจน หุ้น Alpha จะยังคง Underperform ตลาด

มุมมองทางเทคนิค คาดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 75 วัน บริเวณ 1,774 จะเป็น แนวรับ สำคัญทางจิตวิทยา โดยดัชนีฯน่าจะสร้างฐานบริเวณนี้ได้ส าเร็จ (แต่เผื่อ Error ไว้ไม่เกิน 5-10 จุด +/- ถ้าปิดต่ำกว่านั้น แนะนำหยุดซื้อเพิ่ม แนะ แค่ ถือหุ้นที่แนะนำไป (ย้ำไม่ต้องขายมารับล่าง เฉพาะหุ้นที่แนะนำ) ให้รอจนกว่าแรงขายจะเบาบางลง)

สำหรับเรื่องค้องคิดตาม คือ 1.ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 2 แสนราย คงที่จากเดือนก่อน โดยเมื่อวาน ตัวเลขยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 231,000 w-w หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้/ สะท้อนโอกาสดอกเบี้ยเฟดยังขึ้นค่อยเป็นค่อยไป

2.ปธน.ทรัมป์ ได้ลงนามในค าสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก

โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 15 วัน โดยนอกเหนือจากการยกเว้นภาษีให้กับเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้าในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) แล้ว

ปธน.ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจจะยกเว้นภาษีให้กับประเทศอื่นๆ หากประเทศเหล่านี้เจรจาและสามารถตกลงกับสหรัฐได้ว่าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมของพวกเขาจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐรายละเอียดTariff เหล็ก และ อลูมิเนียม คราวนี้ สะท้อนโอกาสภาวะกีดกันทางการค้าที่จะไม่รุนแรง

3.ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย. และคงดอกเบี้ย -0.4%