ไม่ฟ้องอดีตผบ.ตร.พาดพิงทำงานเอาหน้า ขู่ฟ้องขบวนการติดแฮชแท็กไล่

ไม่ฟ้องอดีตผบ.ตร.พาดพิงทำงานเอาหน้า ขู่ฟ้องขบวนการติดแฮชแท็กไล่

รองผบ.ตร. "ศรีวราห์" ไม่ฟ้อง "เสรีพิศุทธ์" อดีตผบ.ตร.พาดพิงทำงานเอาหน้า ขู่ฟ้องกลับขบวนการติดแฮชแท็กไล่ในโซเชียล

คืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์บทบาทการทำงานของพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ในการเอาผิดนายเปรมชัย ว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทำงานตามหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ผ่านมาเขาตั้งใจทำงานดีทุกเรื่อง ส่วนเรื่องดังกล่าวประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจะทำให้เหตุการณ์ขยายวงกว้างหรือไม่ ก็ขอดูรายละเอียดก่อน และที่ประชาชนติดแอชแท็กไม่เอาศรีวราห์นั้น ก็ให้ไปถาม พล.ต.อ.ศรีวราห์

เมื่อถามว่าจะมีการเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนคดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาทำงานก้าวหน้า ขอให้รอฟังการแถลงผลการดำเนินการก่อนว่าเป็นอย่างไรและมีข้อโต้แย้งหรือไม่


“ยืนยันว่าการดำเนินคดีนายเปรมชัยไม่มีความเกรงใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการมาอย่าทำงานนอกลู่นอกทาง ขอให้ทำตามกระบวนการ และไม่ห่วงว่าคดีจะล้มหลังการดำเนินการค้านสายตาประชาชนเพราะเขาทำไปตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยความคืบหน้าของคดี ว่าผลการตรวจดีเอ็นเอจากของกลางที่พบในที่เกิดเหตุทั้งอาวุธปืน อุปกรณ์ครัว และอื่นๆ นั้น เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีดีเอ็นเอของเสือดำปะปนอยู่โดยยืนยันว่าพยานหลักฐานทั้งหมดมีความแน่นหนาพอที่จะดำเนินคดีกับเปรมชัยและพวกได้คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องพนักงานอัยการได้ภายในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ส่วนกรณีงาช้างที่พนักงานสอบสวนพบในบ้านพักและมีชื่อภรรยาเป็นผู้จดแจ้งนั้น เบื้องต้นกรมอุทยานได้แจ้งความดำเนินคดีกับนางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยาของนายเปรมชัยแล้วในข้อหาครอบครองซากสัตว์สงวน มาตรา 19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าลักษณะการจัดวางงาช้างในบ้านมีการตั้งวางตรงไหนมีเจตนาอย่างไร เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องเก็บของ หากพบเป็นการตั้งโชว์ในห้องที่ใช้งานร่วมกัน เช่นห้องรับแขกก็ถือว่ามีความผิดร่วมตามกฎหมายด้วยก็อาจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อนายเปรมชัยในข้อหาร่วมกันครอบครองซากสัตว์ผิดกฎหมาย

ส่วนกรณีการจดแจ้งครอบครองที่มีเจ้าหน้าที่เป็นผู้รับจดแจ้งนั้นจะต้องตรวจสอบด้วยเช่นกันว่าเข้าข่ายร่วมกันจดแจ้งด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ก็เป็นอำนาจของกรมอุทยาน ยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการตามหลักการและกฎหมายไม่มีการแบ่งคนรวยหรือจน ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้เปลี่ยนชุดทำงานคดีนี้เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา ขอย้ำว่าตนไม่ขัดข้องอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่โลกโซเชียลแชร์แฮชแท็กไม่เอาศรีวราห์ รองผบ.ตร. กล่าวว่า “ผมทำงานตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ส่วนโลกโซเชียลจะว่ายังไงก็เป็นสิทธิ ผมไม่สามารถบังคับความคิดใครได้ เหตุผลของโซเชียลก็ไม่มีในกฎหมาย และส่วนตัวไม่ได้รู้สึกน้อยใจหรือท้อใจในการทำงาน เพราะทำงานตามกระบวนการ แต่หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำหรือเคลื่อนไหวที่เป็นขบวนการที่มีเจตนากล่าวหาหรือกลั่นแกล้งก็จะดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน สำหรับกรณีที่อดีตผบ.ตร.พาดพิงถึงว่าทำงานเอาหน้า อยากได้ตำแหน่งนั้น ยืนยันว่าไม่ตอบโต้และไม่ฟ้องกลับ เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. กล่าวว่า หลังจากที่ปทส.ได้รับแจ้งจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรณีภรรยาของนายเปรมชัยครอบครองงาช้างผิดกฎหาย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมประสานขอข้อมูลในการจดแจ้งขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้าง อาทิ เอกสาร รูปถ่าย ที่ประกอบการขอขึ้นทะเบียนจากฝ่ายที่รับแจ้งการครอบครองของกรมอุทยานมาประกอบสำนวน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่างาช้างดังกล่าว นางคณิตตา ได้ดำเนินการจดแจ้งขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้างไว้ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับงาช้างที่ตำรวจยึดได้ว่าตรงกันหรือไม่ ส่วนจะมีการประสานขอเอกสารในการจดจากนางคณิตตา หรือไม่นั้น เนื่องจากเอกสารส่วนใหญ่อยู่ที่กรมอุทยาน และในวันเข้าตรวจค้นที่บ้านพักก็ได้มาบางส่วนแล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอเอกสารเพิ่ม และหากพยานหลักฐานครบถ้วนดีแล้ว ตำรวจจึงจะออกหมายเรียกให้นางคณิตตา มารับทราบข้อกล่าวหา โดยเชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 วันน่าจะมีความชัดเจน

เวลา 15.30 น. ที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วัชรินทร์ ภูสิทธิ์ รอง ผบก.ปปป พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ปทส. เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ในฐานะผู้กล่าวหานายเปรมชัยพยายามให้สินบนเจ้าพนักงาน หลังจากใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 2 ชั่วโมง และทำแผนภายในอาคารประมาณ 5 นาที

พ.ต.อ.วัชรินทร์ เปิดเผยว่า การสอบปากคำและจำลองเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 02.30 ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยเมื่อนำหลักฐานทั้งหมดจากห้วยปะชิมาเก็บไว้ในห้องประชุมอาคารนิทรรศการ ที่ด้านหน้าห้อง มีคนยืนอยู่ 8 คน ประกอบด้วย นายวิเชียร นายเปรมชัย เจ้าหน้าที่ 3 คน ซึ่งยืนห่างนายวิเชียร และนายเปรมชัย ประมาณ 1-2 เมตร ส่วนอีก 2 คนยืนเฝ้าประตูหน้าและหลัง ห่างประมาณ 4 เมตร ฝ่ายนายเปรมชัย มีนายยงค์ โดดเครือ และนายธานี ทุมมาศ โดยการพูดคุยระหว่างนายเปรมชัยและนายวิเชียร ทุกคนได้ยินหมด เนื่องจากอยู่ในรัศมีการได้ยิน 4 เมตร มีไฟส่องสว่าง โดยนายเปรมชัยพูดว่า “ถ้าปล่อยผมอยากได้อะไรจะหามาให้” โดยคำพูดประโยคนี้เข้าข่ายความผิดเสนอให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ

ส่วนคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ในสื่อนั้น เป็นการอัดจากมือถือนายปิยะพงศ์ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ เป็นเสียงพูดคุยระหว่างนายจิตติ สวัสดิ์สาย ตำแหน่งลูกจ้างประจำ ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช กับ นายยงค์ โดดเครือ ไม่มีเนื้อหาการเสนอให้สินบน โดยเป็นการบันทึกหลังนายเปรมชัย เสนอให้สินบนนายวิเชียรในอาคารนิทรรศการ โดยคลิปเสียงนี้ไม่ได้หายมีเก็บบันทึกไว้ในรูปแบบไฟล์แล้ว ทั้งนี้จะสรุปผลการสอบปากคำเสนอผู้บังคับบัญชาในวันที่ 12 มีนาคมนี้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชารับทราบและพิจารณาออกหมายเรียกนายเปรมชัยมาแก้ข้อกล่าวหาต่อไป

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล รองหัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันแห่งชาติ (ภตช.) พร้อมกลุ่มมวลชนไทยศรีวิไลย์จำนวนหนึ่ง เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอให้เร่งรัดคดีนายเปรมชัยและพวก โดยมี พ.ต.อ.รัฐพล แม้นจันทรารัตน์ รองผู้บังคับการอำนวยการสันติบาล เป็นผู้รับหนังสือ

นายณัชพล กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือวันต้องการให้เร่งรัดคดีกับนายเปรมชัยและพวกให้เป็นตัวอย่างต่อสังคม ให้ความยุติธรรมแก่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดจับกุม รวมถึงสัตว์ป่าที่ถูกฆ่า และขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับปรุงการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามหน้าที่แบบเท่าเทียมกับบุคคลทุกสถานะทางสังคม โดยส่วนตัวมองว่าคดีนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน จึงต้องการให้เร่งรัดคดีให้เร็วที่สุดและตรงไปตรงมา เนื่องจากนายเปรมชัยเป็นบุคคลที่มีเส้นสายทางการเมืองและในวงข้าราชการ อีกทั้งยังเป็นผู้รับสัมปทานดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้กลุ่มเราไม่สนใจเรื่องการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน พร้อมยืนยันว่าการออกมาเคลื่อนไหวทำด้วยใจบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับแผนการจัดตั้งพรรคการเมือง