ครม. ไฟเขียวขยายสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จ.เพชรบุรี ว่า ที่ประชุมอนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรวงเงิน 30,000 ล้านบาทสำหรับผู้ประกอบการ SMEs เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยให้ธนาคารพาณิชย์นำไปปล่อยกู้ต่อในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ซึ่งให้ขยายระยะเวลาออกไปถึง 30 มิถุนายน 2561 จากเดิมสิ้นสุดโครงการ 30 ธันวาคม 2560

ทั้งนี้ ล่าสุดสิ้นปี 2560 ธนาคารออมสินอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 29,480 ล้านบาทให้กับผู้ประกอบการ SMEs 2,613 ราย มีการเบิกจ่าย 24,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 455 ราย วงเงิน 4,956 ล้านบาท ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักร โดยผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จตามหลักเกณฑ์ถึงจะเบิกจ่ายได้

ครม.อนุมัติให้นายจ้างลดภาษีได้ 1.5 เท่าโครงการช่วยคนรายได้น้อย

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จ.เพชรบุรีว่า ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติมาตรการสนับสนุนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน โดยสิทธิประโยชน์ นายจ้าง หรือเจ้าของบริษัทที่เป็นนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายที่จ่ายให้กับลูกจ้างผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นำมาหักเป็นรายจ่ายคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้เป็นจำนวน 1.5 เท่าที่จ่ายให้กับลูกจ้างเฉพาะในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 10 ของลูกจ้าง ซึ่งจะไม่รวมกับผู้ที่มีรายแต่ละเดือนมากกว่า 15,000 บาท หรือผู้เสียภาษีในปีที่ผ่านมาเกิน 1 แสนบาท จะไม่สามารถใช้มาตรการดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามระยะเวลาของมาตรการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่รอบบัญชี1มกราคม 2561 ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2562 โดยกระทรวงการคลังคาดว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะสูญเสียรายได้ 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการขยายผลธนาคารปูม้าเพื่อคืนปูม้าสู่ทะเลไทย ได้ตั้งเป้าขยายผล 500 ชุมชนที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้ว 191 ชุมชน 20 จังหวัดชายทะเลอ่าวไทย และอันดามัน โดยธนาคารออมสินจะเข้ามาสนับสนุนสินเชื่อให้กับชุมชนเริ่มทำธนาคารปูม้าวงเงิน 150,000-200,000 บาทต่อชุมชน นอกจากนี้ทางบริษัทประชารัฐรักษามัคคีพื้นที่ชายฝั่งทะเลจะเข้ามาสนับสนุนเรื่องการตลาดและการประชาสัมพันธ์ กระทรวงพาณิชย์จะขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ตามแผนจะมีมูลค่าอย่างน้อย 2,500 ล้านบาทต่อเดือน

ครม.เห็นชอบพรก.แรงงานต่างด้าวปี60

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่จ.เพชรบุรี ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติพระราชกำหนดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวปี 2560 ซึ่งกฎหมายเดิมมีอัตราโทษที่รุนแรง จึงมีมติให้ยกเลิกโทษจำคุก และปรับลดโทษการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้รับอนุญาติให้ทำงานอย่างถูกกฏหมาย หรือทำงานที่ห้ามแรงงานต่างด้าวทำ โดยปรับจาก 2,000 – 100,000 บาท เป็น 5,000 – 50,000 บาทต่อคน และปรับอัตราโทษนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจากเดิม 400,000 – 800,000 บาท เป็น 10,000 – 100,000 บาท หากนายจ้างกระทำผิดซ้ำจะมีโทษจำคุกเพิ่มไม่เกิน 1 ปี

พร้อมกันนี้ยกเว้นให้แรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นบุคคลที่เข้ามาประกอบกิจการหรือลงทุนในไทย และเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ไม่เข้าหลักเกณฑ์เหมือนแรงงานต่างด้าวทั่วไป โดยไม่ต้องจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว และเปลี่ยนจากระบบอนุญาตให้อยู่ในประเทศเป็นการแจ้งต่อนายทะเบียนเท่านั้น รวมทั้งยกเลิกข้อกำหนดที่ระบุว่าหากแรงงานพักอาศัยในพื้นที่ใดจะต้องทำงานในพื้นที่เท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังห้ามนายจ้างเรียกเก็บเงินกับแรงงานต่างด้าวเด็ดขาด เพราะถือว่ามีความผิด ขณะเดียวยังมีการแก้ไขบทเฉพาะกาลให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามพระราชกำหนดดังกล่าวอีกไปจากเดิมวันที่ 1 มกราคม เป็น 1 กรกฎาคม 2561