"อุดม" สั่งสอบ "หน.ภาควิชา" ทุบหลัง "น้องแบม" ยันนศ.ทำดีต้องชื่นชมส่งเสริม มหาวิทยาลัยต้องปกป้องด้วยซ้ำ
ที่โรงแรมดุสิตธานี อ.ชะอำ จ.เพรชบุรี นายอุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น้องแบม หรือ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมุนษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม( มมส.) เปิดเผยข้อมูลการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แต่กลับถูกอาจารย์ หัวหน้าภาควิชาทำร้ายร่างกายด้วยการทุบหลัง ว่า ต้องรอฟังผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเสียก่อนว่ามีการทำร้ายจริงหรือไม่ โดยตนได้สั่งให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปตรวจสอบแล้ว ตอนนี้อย่าพึ่งฟังความข้างเดียว
“แต่ผมยืนยันว่าสิ่งที่นักศึกษาทำเป็นสิ่งดีงาม เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทางมหาวิทยาลัย ควรจะต้องส่งเสริม และไม่ควรที่จะทำให้เกิดการปิดกั้นหรือสร้างความเสียหายกับนักศึกษาควรจะต้องปกป้องด้วยซ้ำ เพราะเป็นสถาบันการศึกษา ดังนั้นเรื่องนี้ผมขอเวลา1-2 วัน” นานอุดม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตรวจสอบพบว่าสิ่งที่น้องแบมออกมาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ทางผู้บริหารของมหาวิทยาลัยสารคามจะมีความผิดหรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตอย่างไรกรณีที่ผู้บริหารหรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างพากันตำหนิเด็กนักศึกษา นายอุดม กล่าวว่า “ตรงนี้ต้องไปถามผู้บริหารและอาจารย์ดังกล่าวเอง ว่าทำไมจึงไปตำหนิเด็ก แต่ส่วนตัว ผมเห็นว่าเด็กได้ทำสิ่งที่ดีงามและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เราควรมีหน้าที่ชื่นชมและให้กำลังใจแก่เด็ก”
เมื่อถามว่า จะต้องมีการตรวจสอบอาจารย์ภายในมหาวิทยาลัยดังกล่าวหรือไม่ว่าร่วมทุจริตหรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะเรื่องการทุจริตดังกล่าวอยู่ในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) แล้วที่ผ่านมามหาวิทยาลัย ได้ส่งนักศึกษาฝึกงานไปหลายแห่ง เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความบังเอิญมากกว่า ตนจึงคิดว่าไม่น่าจะมีความเชื่อมโยงกัน เพราะเป็นคนละกระทรวง แต่จะเกี่ยวข้องหรือไม่ให้กระทรวงพม. และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท. )ไปตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ที่จะส่งเสริมหรือมีส่วนผลักดัน ให้เด็กต่อยอดในการทำความดีในครั้งนี้ รมช.ศึกษา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางมหาวิทยาลัยต้องส่งเสริมอยู่แล้ว ให้มีกิจกรรมไปทำความดี เราส่งเสริมอยู่แล้ว ยืนยันอีกครั้ง ทั้งกระทรวงศึกษาธิการและมหาวิทยาลัย ควรส่งเสริมเด็กที่จะทำความดี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เป็นตัวอย่างที่ดี