บิ๊กบช.ก.ลั่นร้อง 'ปปป.' ฟันม.157 'ผู้การสุทธิ' เอี่ยวคดีสลากฯ30ล้าน

บิ๊กบช.ก.ลั่นร้อง 'ปปป.' ฟันม.157 'ผู้การสุทธิ' เอี่ยวคดีสลากฯ30ล้าน

"รองผบช.ก." เตรียมแจ้งม.157 เอาผิด "พล.ต.ต.สุทธิ" ผู้การเมืองกาญจนบุรี ปมเปลี่ยนสำนวนคดีหวย 30 ล้าน เจ้าตัวโร่ชี้แจงพร้อมกัน 4 ตำรวจชุดสอบสวนเป็นพยาน จ่อออกหมายจับพยานฝั่งครูปรีชาอีก2ราย

จากกรณี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ที่ต่างฝ่ายต่างแสดงความเป็นเจ้าของในสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 หมายเลข 533726 จำนวน 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้จับกุมนายปรีชา และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในข้อหาให้การเท็จ ซึ่งทั้งสองคนให้การปฏิเสธ ก่อนที่ตำรวจจะส่งฝากขังที่ศาลและได้รับการประกันตัวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วานนี้ (5มี.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านดังกล่าว พร้อมด้วย พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. เจ้าหน้าที่ บก.ป. และ บก.ปปป. ร่วมกันประชุมความคืบหน้าของคดี

ฟัน ผบก.กาญจน์ ผิด ม.157 บิดสำนวนหวย 30 ล.
 

ต่อมา พล.ต.ต.ชาญ เปิดเผยภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าของคดี ในส่วนการพิจารณาร้องทุกข์ต่อ ปปป. เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับชุดคณะทำงานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ในเบื้องต้น มี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี) ซึ่งถูกย้ายจากตำแหน่งมาประจำ ศปก.ตร. ในฐานเจ้าพนักงานละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 เนื่องจากมีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเพียงนายเดียว

พล.ต.ต.ชาญ กล่าวต่อว่า ภายในสัปดาห์นี้ทางกองปราบปรามจะนำหลักฐานเข้าร้องทุกข์ต่อ ปปป. ซึ่งในส่วนของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ทั้ง 4 นาย เบื้องต้นยังไม่ถูกแจ้งข้อหาใดๆ และอาจกันไว้เป็นพยานทางคดี ส่วนจะมีบุคคลอื่นที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานก็จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องเอาผิดด้วยหรือไม่ โดย ปปป.จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะต้องดำเนินการกับทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในฐานะผู้บังคับบัญชาหรือไม่

ทั้งนี้ ต้องให้พนักงานสอบสวนรวบรวมเข้าสำนวนให้ครบทุกประเด็น รวมทั้งหลักฐานชิ้นสำคัญที่เป็นซองพลาสติกที่บรรจุลอตเตอรี่ที่หายไปก่อนหน้า ก็ได้นำเรื่องส่งให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ดำเนินการแล้ว

พล.ต.ต.ชาญกล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังกำชับให้ฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ตรวจคำให้การของพยานในคดีว่า มีข้อเท็จจริงเพียงใด พิจารณาว่าจะมีการเชิญบุคคลในคดีหวย 30 ล้าน อีก 3-4 ปาก เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม

 “สำหรับเจ๊เซี้ยมที่อ้างว่าภรรยาหมวดจรูญพูดว่าเก็บลอตเตอรี่ได้นั้น ยังคงยึดคำให้การเดิม ไม่เรียกสอบเพิ่ม ภายใน 2-3 วัน คาดจะออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก ซึ่งน่าจะเป็นบุคคลที่เคยเข้ามาให้การไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ขอรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อน” พล.ต.ต.ชาญกล่าว

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีที่จะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีเพิ่ม คาดว่าน่าจะเป็นพยาน 2 รายของนายปรีชาที่เคยเข้าให้การต่อพนักงานสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาหลักฐานทั้งหมดอีกครั้งก่อนจะขออนุมัติออกหมายจับกุมต่อไป

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามมั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเอาไว้ทั้หมด และจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ในกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

ฟัน ผบก.กาญจน์ ผิด ม.157 บิดสำนวนหวย 30 ล.
 

ส่วนจะสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน เนื่องจากกำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานอย่างรัดกุมและรอบคอบ เพื่ออุดช่องโหว่ไม่ให้พนักงานอัยการต้องสั่งสอบเพิ่ม และหลังจากนี้จะมีการเชิญพยานมาให้ปากคำ โดยเฉพาะพยานของทั้ง 2 ฝ่ายที่มีบทบาทในการให้ข้อมูล จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้นพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้พิจารณา

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ในส่วนของนายตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และมีคำสั่งโยกย้ายไปนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่ากรณีทุจริตต่อหน้าที่ต้องดำเนินคดีอาญาอย่างแน่นอน แต่ขอให้เป็นไปตามพยานหลักฐานว่า เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดหรือไม่ และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้เดินทางมายัง บช.ก. เพื่อเข้าพบ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในส่วนของตนเองที่เข้าไปพัวพันกับคดีสลากเจ้าปัญหา อย่างไรก็ตามหลังการเข้าพบไม่นานนัก พล.ต.ต.สุทธิ ได้เดินทางกลับทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด


สำหรับขั้นตอนการดำเนินคดีในส่วนของ พล.ต.ต.สุทธิ นั้นมีรายงานว่า ขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบฯ จะนำสำนวนการสอบสวนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จากนั้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะพิจารณาสรุปสำนวนก่อนส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการพิจารณาว่า ป.ป.ช. จะดำเนินการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนเอง หรือว่าจะส่งกลับมาให้ตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของคดีการแย่งชิงกรรมสิทธิ์การครอบครองสลากในคดีอื่นๆ อีก 5 คดี ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เข้าไปสืบสวนเพื่อหาความกระจ่างด้วยนั้น มีรายงานล่าสุดว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เซ็นคำสั่งอนุมัติโอนคดีการโกงสลากอีก 2 คดีมาให้ บช.ก.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนแต่ฝ่ายเดียว เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดแล้ว

คดีแรก คือ คดีที่ นางเรวดี หาแก้ว และนางวิไลพร รัตนติสร้อย ได้เข้าพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ในขณะนั้น เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในคดีที่ถูก นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ เพื่อนสนิทที่หุ้นซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ประจำวันที่ 1 เมษายน 2559 รวมมูลค่า 30 ล้านบาท เชิดสลากหายไป เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2559 นางเรวดี อ้างว่า ตนเองพร้อมด้วย นางวิไลพร และนางสุดารัตน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนสนิทกันนั้นได้ไปทำบุญที่วัดลาดบัวขาว แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ก่อนจะร่วมกันหุ้นเงินลงทุนซื้อสลากกินแบ่งจำนวน 5 คู่ดังกล่าว โดยนางสุดารัตน์ เป็นผู้เก็บสลากไว้ ก่อนจะเชิดหายไปและได้มีการแจ้งความไว้ที่ สน.ประเวศ

คดีที่สอง คือ คดีที่ นางเรวดี หาแก้ว ซึ่งเป็นผู้เสียหายรายเดียวกันกับคดีที่ สน.ประเวศ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งที่ 1 อีกรายหนึ่งในพื้นที่ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี ว่าในความจริงแล้ว นางเรวดี เป็นเจ้าของสลาก เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการสืบสวนในเบื้องต้นชุดสืบสวนของกองปราบฯ พบข้อพิรุธมากมายในส่วนของนางเรวดี และมีหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่าการแจ้งความกล่าวหาของนางเรวดีทั้งสองคดีนั้นไม่ตรงกับมูลความจริงที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมเกิดความสับสนและผู้ที่ถูกสลากจริงอาจจะได้รับความเสียหาย โดยขณะนี้หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ลงนามโอนสำนวนคดีมาแล้ว พล.ต.ท.ฐิติราช ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนกองปราบฯ รวบรวมพยานหลักฐานอย่างเร่งด่วนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าในส่วนของทั้งสองคดีนี้พนักงานสอบสวนจะสามารถรวบรวมขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ภายในกลางเดือนมีนาคมนี้

ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านของครูปรีชา และได้สอบถามถึงการต่อสู้คดีความว่า พร้อมที่จะสู้ต่อหรือไม่ ซึ่งครูปรีชาตอบว่า ครับ และบอกด้วยว่า ต่อไปนี้ของดให้สัมภาษณ์สื่อ ต้องขอโทษด้วย จากนั้นครูปรีชาขับรถไปโรงเรียนทันที ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตามไปที่โรงเรียน แต่ครูปรีชาได้แจ้งว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

ต่อมาในช่วงเย็น ครูปรีชาก็ยังคงไม่ยอมให้สัมภาษณ์ บอกแต่เพียงว่า งดให้สัมภาษณ์และให้ความเห็นในประเด็นต่างๆ อีกเพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลแล้ว

ขณะที่ นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาของ ร.ต.ท.จรูญ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ร.ต.ท.จรูญป่วย นอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน และไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ หากต้องสอบถามเรื่องอะไร ให้ไปสอบถามกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ