อุตฯรถยนต์เยอรมนีชี้ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า

อุตฯรถยนต์เยอรมนีชี้ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า

นายเบิร์นฮาร์ด แมทเทส ประธานสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนี (วีดีเอ) กล่าวว่า ควรมีการหลีกเลี่ยงการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและยุโรป เนื่องจากจะส่งผลให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นผู้แพ้ และการเรียกเก็บภาษีนำเข้าไม่ใช่คำตอบของการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าสหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป หากสหภาพยุโรป (อียู) ตอบโต้การเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความระบุว่า “หากสหภาพยุโรปต้องการเพิ่มภาษีนำเข้า และทำให้เกิดอุปสรรคต่อบริษัทสหรัฐที่ดำเนินกิจการอยู่ในยุโรป เราก็จะทำเช่นนั้นกับรถยนต์ของพวกเขา”

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความ ระบุว่า การทำสงครามการค้าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสหรัฐ และเป็นเรื่องง่ายที่จะชนะ

“เมื่อประเทศหนึ่ง (สหรัฐ) ต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการทำการค้ากับแทบทุกประเทศ การทำสงครามการค้าก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และชนะได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องสูญเสียเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์กับบางประเทศ เราก็อย่าได้ทำการค้าต่อไปอีก เราก็จะชนะอย่างยิ่งใหญ่ นี่เป็นเรื่องง่ายๆ” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ

หลังจากนั้นไม่นาน นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ตอบโต้โดยระบุว่า สหภาพยุโรปจะดำเนินการตอบโต้อย่างรุนแรงและสมน้ำสมเนื้อ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทยุโรปที่ส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังสหรัฐ

ขณะที่นางเซซิเลีย มาล์มสตรอม สมาชิกคณะกรรมาธิการการค้ายุโรป กล่าวเสริมว่า มาตรการเหล่านี้ของสหรัฐจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาคและตลาดโลก ขณะเดียวกันก็จะเป็นการเพิ่มต้นทุน และลดทางเลือกสำหรับผู้บริโภคเหล็กและอลูมิเนียมในสหรัฐ รวมถึงบรรดาอุตสาหรรมที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้

แหล่งข่าวระบุว่า อียู กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดความสมดุลทางการค้าระหว่างอียูและสหรัฐ

ด้านนายยุงเกอร์ ระบุว่าอียูจะเพิ่มภาษีนำเข้าบิ๊กไบค์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน วิสกี้เบอร์เบิน และกางเกงยีนส์ลีวายของสหรัฐ