หนุ่มช่างกลึงรักคุด ระแวงแม่หม้ายสาวลูก 3 ตีจาก ชัก .38 ยิงระบายแค้น กระสุนพุ่งเจาะท้ายทอยทะลุลำคอดับคาที่ ก่อนใช้ระเบิดขมับตัวเองอีกศพ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 มี.ค.2561 ร.ต.อ.รณชัย จันทร์สูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในบริษัท เซ็นเตอร์ รับเบอร์ จำกัด เลขที่ 670 ซอยเพชรเกษม 48 แยก 4-7 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ และรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบก.น.9 , พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รอง ผกก.ป.สน.ภาษีเจริญ , พ.ต.ท.คงศักดิ์ ปานน้อย รอง ผกก.สส.สน.ภาษีเจริญ , แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นโกดังชั้นเดียว แบ่งพื้นที่ไว้ใช้สำหรับเป็นที่พักคนงาน และส่วนการผลิตท่อยาง ข้อต่อ และอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบที่โต๊ะฝ่ายตัดแต่งสินค้า พบศพผู้เสียชีวิตหญิงและชายนอนทับกันจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ศพแรกนอนหงายอยู่ด้านล่างทราบชื่อคือ นางสุมาลี หรือตู่ อัคฮวด อายุ 39 ปี ชาว จ.นครพนม พนักงานฝ่ายตัดแต่งสินค้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 โดยกระสุนพุ่งเจาะเข้าที่ท้ายทอยด้านหลังทะลุลำคอด้านหน้า 1 นัด ส่วนศพที่สองคว่ำหน้านอนทับอยู่ด้านบน ทราบชื่อคือ นายบุญสม หรือสม แฟสันเทียะ อายุ 42 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ช่างกลึงของโรงงานดังกล่าว และเป็นผู้ก่อเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ขมับขวาฝังใน 1 นัด ที่มือข้างขวายังกำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 เอาไว้แน่น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางนวลจันทร์ พองนาที อายุ 25 ปี พนักงานฝ่ายตัดแต่งสินค้า ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็นพนักงานอาวุโส ทำงานที่โรงงานแห่งนี้มาได้กว่า 10 ปีแล้ว โดยฝ่ายชายมีครอบครัวและมีลูก 1 คน ส่วนฝ่ายหญิงเป็นแม่หม้ายลูกติด 3 คน ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ตนและพนักงานคนอื่นๆ ได้ทยอยกันมาทำงานตามปกติ และตอกบัตรเพื่อเข้าทำงานตามหน้าที่ จู่ๆ นายบุญสม ช่างกลึง ได้เดินเข้ามาที่โต๊ะฝ่ายตัดแต่งสินค้า พร้อมกับชักอาวุธปืนยิงใส่ นางสุมาลี ต่อหน้าต่อตาเพื่อนคนงานประมาณ 5 คน
ทั้งนี้ เมื่อสิ้นเสียงปืน นางสุมาลี ได้ล้มลง จากนั้นนายบุญสม จึงได้คัดปลอกกระสุนเก่าออก เพื่อบรรจุลูกกระสุนใหม่ ก่อนก้มลงไปกอดร่างนางสุมาลี พร้อมกับลั่นกระสุนปืนใส่ขมับตัวเอง ร่างล้มทับในลักษณะกอดกับ นางสุมาลี สิ้นใจตายไปพร้อมๆ กัน สำหรับสาเหตุนั้นตนไม่ทราบ เพราะทั้งคู่ไม่เคยมีปากเสียงให้เห็นมาก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ญาณพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเจ้าของโรงงานยืนยันว่า ผู้ตายทั้งคู่เป็นพนักงานของบริษัทเดียวกัน แต่อยู่คนละฝ่าย ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าเป็นเรื่องชู้สาว เนื่องจากเพื่อนๆ คนงานรุ่นเก่าๆ จะทราบว่า ทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันมาก แต่ระยะหลังฝ่ายหญิงกำลังจะขอตีตัวออกห่าง จึงทำให้เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมอบศพผู้ตายทั้งสองให้นิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อทำการผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะติดตามญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายมารับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป