กัปตันมอเตอร์ไซค์ ซิ่งรอบโลก 77 ประเทศ 

กัปตันมอเตอร์ไซค์  ซิ่งรอบโลก 77 ประเทศ 

สำหรับกัปตันคนนี้ การเดินทางไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่เป็นการเรียนรู้ชีวิตและโลกในมุมที่แตกต่าง

.......................

การเดินทางรอบโลกด้วยมอเตอร์ไซค์ของกัปตัน จักรพงษ์ ภูมิสุวรรณ์ นักบิน เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของการบินไทยคนนี้ เขาทำตามความฝันของตัวเอง 

โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์คนเดียวหลายประเทศ ไม่ว่าลาว จีน มองโกเลีย พม่า ฯลฯ

เขาเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย ออกกำลังกายเป็นประจำ มีประสบการณ์เป็นนักบินกว่า 24 ปี ผ่านการตัดสินใจเรื่องยากๆ ในชีวิตมาเยอะ ทั้งเรื่องการบิน การขี่มอเตอร์ไซค์ท่องโลก และเคยบวชเรียน

การเดินทางครั้งนี้ เขาจะเดินทางยาวนานที่สุด คือ 2 ปีกว่าๆ 7 ทวีป 77 ประเทศ มีเสื้อผ้า 3 ชุด กล้องสองสามตัว โดรน โน้ตบุ๊ค เต็นท์ และสิ่งของเท่าที่จำเป็น โดยวางแผนจัดการการเดินทางด้วยตัวเอง ไม่มีทีมงาน

เขาขอพักจากอาชีพนักบินสองปี ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 ขี่มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าที่ทางบริษัทฯให้ยืมท่องโลก โดยการเดินทางครั้งนี้เขาจะต้องใช้เงินกว่า 10 ล้านบาท แม้จะมีผู้สนับสนุนการเดินทางอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มากพอ โดยออกเดินทางจากภาคใต้ของไทย ผ่านออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาใต้ ฯลฯ

อยากให้คุณเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ให้ฟังสักนิด ? 

ผมเป็นคนมีพลัง อยากทำโน้นทำนี่ตลอดเวลา ขี่บิ๊กไบค์มาตั้งแต่เป็นกัปตันเมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นให้ของขวัญตัวเองเพื่อค้นพบโลกใหม่ ผมเป็นคนที่ชอบกีฬากลางแจ้ง เคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย เล่นซอฟท์บอล และเทนนิส ตอนนี้หันมาว่ายน้ำ ผมเป็นคนชอบท่องเที่ยวแบบเทรคกิ้ง ถ้าไม่ทำงาน ก็ไม่ชอบกลิ่นเครื่องบิน พอมาค้นพบมอเตอร์ไซค์ก็เจอสิ่งที่ชอบสุดๆ หลังจากซื้อมาก็ขี่ไกลขึ้นเรื่อยๆ ปีแรกขี่ไป 35,000 กิโลเมตร จนมาซื้อ BMW ขี่ไปลาวคนเดียว ปี 2554 อยู่ในลาว 18 วัน ค่ำไหนนอนนั่น บางทีก็นอนกับชาวบ้าน ผมไม่ค่อยนอนโรงแรม ผมขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำขึ้นเขา โดยไม่ได้ใช้จีพีเอสนำทาง

สมัยก่อนโคลัมบัสเดินทางไม่มีเครื่องมือนำทางอะไรเลย เขาก็กล้าที่จะผจญภัย ตอนนี้โลกก้าวหน้าขึ้นเยอะ คนเดินทางตลอดเวลา แต่คนไทยอยู่บนพื้นฐานความกลัว เมื่อผมออกเดินทางรอบโลก หลายคนก็บอกว่า ลำบากและอันตราย แต่สำหรับผม การได้เปลี่ยนที่นอนทุกวันและได้พบคนใหม่ๆ ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือสิ่งที่ผมชอบ

กลัวไหม

เราต้องเข้าใจความกลัว ผมเองก็สนใจเรื่องธรรมะ สมัยเรียนเคยบวชที่สวนโมกข์ ผมไม่ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรเก็บไว้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ปกติเวลาบิน กัปตันหลายคนถ้าไม่มียันต์อยู่ใต้หมวก ก็ต้องมีรูปหลวงพ่อหรือพ่อแม่

ตอนที่เดินทางคนเดียวในลาว 18 วันเป็นยังไงบ้าง

ผมไปนอนกับชาวบ้าน มีบ้านหลังหนึ่งต้องนอนติดๆ กันบนแคร่เกือบ 20 คน ผมก็นอนกับพวกเขา ความเป็นอยู่แล้งแค้นมาก เงินเดือนเขาแค่สองพันบาท ทำไมพวกเขาอยู่ได้ ผมค้นพบว่า เขาปลูกผัก เลี้ยงเป็ด ไก่ หมู และจับปลาในแม่น้ำ ผมเดินทางไปลาวทั้งหมด 5 ครั้ง ครั้งแรกเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเลย ทำให้เรารู้ว่า เราโชคดีมาก เรามีทุกอย่าง แต่เราไม่รู้จักพอ เสาะแสวงหาความมั่งคั่งตลอดเวลา ทำให้เราอยากได้โน้น อยากได้นี่ ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

หลังจากลาว คุณเดินทางไปไหนต่อ

ในประเทศไทยเกือบทุกแห่ง ผมเดินทางคนเดียว ผมเดินทางไกลขึ้นเรื่อยๆ ไปพม่า ไซบีเรีย ชายแดนเกาหลีเหนือ มีทั้งเดินทางกลุ่มและคนเดียว ผมชอบเดินทางคนเดียวมากกว่า เคยไปไซบีเรียในรัสเซียเดือนครึ่ง ขี่ไปเรื่อยๆ

อย่างต้นปี 2015 มีการนัดหมายกันว่าจะเดินทางไปวลาดิวอสต็อก รัสเซีย และมองโกเลีย มีคนสมัครร่วมเดินทางด้วย 24 คน ที่สุดแล้วมีคนชาติต่างๆ ร่วมเดินทาง 7 คน ผมเป็นคนไทยคนเดียว นอกนั้นเป็นอเมริกัน นอร์เวย์ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ยูเครน อังกฤษ

ประสบการณ์ตอนนั้นเป็นยังไง

ตอนไปมองโกเลีย หลายคนบอกว่าจะพักที่เมืองหลวงสามคืน แต่ผมมาจากเมืองหลวง ผมก็เลยปลีกตัวออกมาไปนอนกับชาวบ้าน แล้วไปเจอกันที่ชายแดน การเดินทางคนเดียวทำให้ผมได้คุยกับผู้คนตลอดเวลา เพราะการเดินทางกลุ่มจะคุยกันเอง ผมไปเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม และเราเป็นคนลุย ชอบบรรยากาศดิบๆ กางเต้นท์นอนริมน้ำ ตอนขี่มอเตอร์ไซค์เข้าชายแดนรัสเซีย ผมไม่มีที่นอน ตอนนั้นอยู่ในเมือง ซื้อเบียร์และถั่วมานั่งกิน มืดแล้วไม่รู้จะไปไหน ผู้หญิงคนหนึ่งเห็นผมไม่มีทีี่นอน ก็เลยชวนผมไปนอนบ้าน ทั้งๆ ที่พูดกันไม่รู้เรื่อง ครอบครัวนี้มีลูกสองคน เด็กๆ เห็นก็ตกใจ กลัวผม และผมเคยขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามจีน ไปที่ราบสูงทิเบตลงไปทางแชงกรีลา

ทำไมไม่มีคนไทยร่วมเดินทางกับคุณในครั้งนั้น

ผมก็อยากรณรงค์ในเรื่องนี้ อยากให้คนไทยตั้งใจที่จะทำอะไร แล้วมีความมุ่งมั่น พูดแล้วต้องทำ ถ้าทำแล้วจะมีอีกหลายอย่างตามมา ทำให้เชื่อในศักยภาพของตัวเอง เป็นคนที่มีความมั่นคงขึ้น ไม่อย่างนั้นทริปเดินทางรอบโลกของผมจะไม่เกิด

ไม่กลัวถูกปล้น ถูกทำร้ายหรือ

ถ้ากลัว ก็ไม่ต้องทำอะไร เราต้องมีความพร้อมและเอาความกลัวมาเป็นประสบการณ์ เราก็ต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความกลัว ผมเคยเจอเหตุการณ์ มอเตอร์ไซค์เสียกลางทาง น้ำมันหมด เข็นรถไปสี่ห้ากิโลเมตร ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งที่ต้องมีติดตัว คือ ความใจเย็น เดี๋ยวก็ไปต่อได้

การเดินทางรอบโลก 2 ปี 7 ทวีป คุณตัดสินใจนานไหม

เพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เส้นเลือดในสมองแตก จักรยานล้ม ซี่โครงไหปลาร้าหัก กลายเป็นเจ้าชายนิทรา ภรรยาผม จึงบอกว่า ถ้าผมอยากทำอะไรให้รีบทำ ผมก็บอกว่า อยากไปขี่มอเตอร์ไซค์รอบโลก เธอก็บอกว่าให้ไป หลังจากนั้นค่อยๆ เตรียมตัว เตรียมข้อมูลไปเรื่อยๆ ขอสปอนเซอร์ ทำเพจ ตอนแรกว่า จะเดินทางด้วยทุนตัวเอง คือ 10 ล้านบาท แต่ผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น

ผมคิดว่า ถ้าตายไปแล้ว ก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย ทุกคนรู้แต่ก็ยังตกอยู่ในอำนาจของวัตถุ แต่ผมเลือกทำแบบนี้ ลางาน ไม่เอาเงินเดือนสองปี ต้องจากภรรยาและลูกอายุ 4 เดือน การเดินทางแบบนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลา บางประเทศไม่พูดภาษาอังกฤษ ก็ใช้ภาษาใบ้ ผมเคยนั่งคุยดื่มเหล้ากับชาวบ้านสี่ห้าชั่วโมงโดยใช้ภาษามือ แต่ผมก็มีความสุข

วางแผนไว้อย่างไร

ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านๆ ถ้าทำแบบนั้นใช้เวลาแค่ 7-8 เดือน แต่ผมไปใช้ชีวิต เรียนรู้ผู้คน 7 ทวีป ผมไม่ได้จ้างทีมงาน ไม่จ้างทัวร์ ผมวางแผนคนเดียว อุปกรณ์ที่ผมนำไปด้วยจะมีโดรน โน้ตบุ้ค กล้องตัวใหญ่สองตัว มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า ขอยืมไปใช้สองปี กลับมาจะเอามาคืนให้ทั้งหมด ตอนนี้ทางยามาฮ่า และปตท. ช่วยสนับสนุน แต่ไม่เยอะ แค่สิบเปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่าย ผมไม่ใช่เศรษฐี ผมเป็นเด็กบ้านนอกมาก่อน

ผมจะทำคลิปออกมาให้ชมทางเพจ “กัปตันมอเตอร์ไซค์” ผมอยากพาคนไทยไปเที่ยว ผมชอบเผื่อแพร่ความรักให้คนอื่น ถ้าระหว่างเดินทาง เงินหมด ผมก็ขายที่ดิน ขายบ้านที่ไม่ได้อยู่ ผมอยากให้คนไทยออกมาใช้ศักยภาพของตัวเองมากขึ้น เพราะเราชอบดูถูกตัวเอง ชอบคิดว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างผมเรียนสายศิลป์ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นนักบิน แต่ผมมุ่งมั่นเอาชนะ ผมเชื่อว่า มนุษย์มีพลังแฝงเยอะ แต่ไม่รู้จักใช้ เพราะความกลัว

เพิ่งมีลูกอายุไม่กี่เดือน ก็ตัดสินใจเดินทางรอบโลกคนเดียว รู้สึกกังวลไหม

แม้เรื่องเงินจะมีปัญหา ญาติพี่น้องไม่มีใครเห็นด้วย และการเดินทางแบบนี้ผมไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะได้กลับมาหรือเปล่า ถามว่าผมกลัวไหม...กลัวครับ แต่ถ้าไม่ทำ อายุเยอะๆ ผมคงคาใจ

คนมากมายพูดว่ารู้จักพอ แต่ไม่รู้ว่า พอจริงหรือเปล่า แต่ผมเป็นคนรู้จักคำว่า พอ ผมทำงานสิบปีแรกเพื่อครอบครัวและส่งน้องเรียน อีก 15 ปีทำงานเพื่อตัวเอง ผมเคยเป็นหนี้ 14 ล้านบาท ตอนนี้ผมเคลียร์หนี้หมดแล้ว ด้วยความสามารถตัวเอง เล่นหุ้น ซื้อขายที่ดิน เมื่อผมทำงานมา 25 ปี ก็ขอหยุดให้รางวัลตัวเอง จากนั้นจะกลับมาทำงานอีก 10 ปีเพื่อลูก

แสดงว่ามีเป้าหมายชัดเจน ?

ผมไม่อยากตกเป็นทาสของเงิน อาชีพผมทำงานมีรายได้เยอะ ผมเชื่ออีกอย่างว่า การเป็นมนุษย์ที่ดี ต้องไม่พึ่งเงินเดือนอย่างเดียว ถ้าเราอยากมีอิสระภาพทางการเงิน ต้องรู้จักการลงทุน

คุณพลังเอามาจากไหน

ตอนเรียนที่โรงเรียนสามเสน ผมเคยเรียนวิทยาศาสตร์กายภาพกับอาจารย์อุ๊ (อุไรวรรณ ศิวะกุล) จำได้ว่า ตอนไหว้ครู ผมเอาดอกไม้ให้ครู อาจารย์อุ๊บอกว่า “จักรพงษ์ เธอเป็นคนที่มีศักยภาพมาก และต้องเอามาใช้นะ” ทำให้เราเชื่อมั่นในตัวเองว่า เราทำได้

เห็นบอกว่า จะทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางรูปเบบใหม่ของโลก ?

ผมจะถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางผ่านออนไลน์ให้มากที่สุด ผมไม่ได้เดินทางเอามันคนเดียว ผมจะทำหน้าที่หลายอย่าง ผมจะเป็นทั้งนักผจญภัย ดำน้ำดูปะการัง ดูอเมริกันฟุตบอล ฯลฯ นักชิม เล่าเรื่องราวอาหาร ผมจะเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ และที่ไหนมีสนามบิน ถ้ามีโอกาสผมก็จะขับเครื่องบินด้วย ผมจึงมีหลายบทบาท เป็นทั้งนักกิจกรรม นักสารคดี นักสำรวจ นักขี่ นักฟังเพลง ถ้าไปถึงนิวโอลีน ผมก็จะไปดูดนตรีแจ๊ส ผมมีความสนใจเยอะมาก

ผมจะใช้ชีวิตในแบบที่ผมชอบ ผมอยากทำให้คนเห็นว่า ฝันแล้วต้องวางแผนให้เป็นจริง ผมจะทำคลิปรวบรวมสถานที่สำคัญของโลกให้ชมด้วย ผมอยากทำให้เห็นว่า การเดินทางที่มีคุณภาพเป็นอย่างไร แล้วสปอนเซอร์จะมาเอง แต่ผมก็เลือกสปอนเซอร์ ถ้ามาบังคับให้ผมทำแบบนั้นแบบนี้ ผมไม่เอา เราต้องเป็นตัวของตัวเอง 

.............................

หมายเหตุ : ติดตามการเดินทางได้ที่เพจ กัปตันมอเตอร์ไซค์

..............

(((กว่าจะมาถึงจุดนี้ )))

"ผมเป็นนักเรียนสายศิลป์คนเดียวของรุ่นการบินไทยที่สมัครเป็นนักบิน และผมสอบได้ที่หนึ่งตลอดการเรียนที่การบินไทย นั่นทำให้ผมค้นพบว่า ถ้าเรามุ่งมั่นจะเอาชนะได้ทุกสิ่ง อาชีพนักบิน ก็ท้าทายทุกครั้งที่บิน อากาศและลมไม่เคยเหมือนกันเลย ทำให้ผมได้ใช้ทักษะเต็มที่ มีโอกาสเดินทางไปทั้งยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย

ผมสนุกกับอาชีพนักบิน ถ้าให้ผมขับเครื่องบินฟรีๆ โดยไม่ให้เงิน ผมก็เอา เพราะผมไม่มีเงินซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777 บินเอง ผมชอบใช้ชีวิตท่องเที่ยวกลางแจ้ง และอีกอย่างการเป็นนักบินทำให้เราต้องตัดสินใจตลอดเวลา อาทิ ผู้โดยสารป่วย กระเป๋าผู้โดยสารหาย ฯลฯ

ผมไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ชีวิตต้องมีเป้าหมาย ผมขับเครื่องบินไปประเทศไหนผมก็ออกเดินสำรวจเมือง ออกไปใช้ชีวิต ทั้งๆ ที่บางประเทศค่าใช้จ่ายแพงมาก คนส่วนใหญ่จะนอนกอดเงินอยู่ในห้อง แต่ผมออกไปใช้ชีวิต 

      แม่ผมเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนผมอายุขวบกว่าๆ ตอนนั้นครอบครัวเราอยู่ที่จังหวัดประจวบ ผมขโมยรถสี่ล้อเล็กๆ ปั่นออกจากบ้านไปเรื่อยๆ เมื่อมีคนเห็น ก็เลยส่งเด็กคนนั้นให้ตำรวจเพราะไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร ตำรวจจึงต้องเอาขึ้นรถกระบะประกาศหาว่า นี่ลูกใคร ให้มารับได้"