sideway down

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทยวันพุธ ย่อลง 0.26 จุด หลังจากแกว่งตัวในกรอบ 1825.90-1839.91 จุด วอลุ่ม 7.69 หมื่นลบ. กลุ่มไฟแนนซ์และพาณิชย์หนุนตลาด ขณะที่กลุ่มวัสดุฯ พลังงาน มีเดีย ถ่วงตลาด หุ้นที่ปรับลงแรงช่วงที่ผ่านมากลับมาเป็นหุ้นที่ซื้อขายคึกคัก อาทิ CBG TKN GLฯลฯ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ ปรับลดลง วิตกเกิดสงครามการค้า นำลงโดยหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกเหล็กและอลูมิเนียม

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ลดลงทดสอบแนวรับของกรอบ 1810-1840 จุด อิงโมเมนตัมตลาดหุ้นโลกกลับมาเป็นลบ โดย DJIA ร่วง 2 วันกว่า 720 จุด และราคาน้ำมันดิบย่อตัว 1.1% เพราะวิตกเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยปีนี้สูงกว่าคาด และ Trade War ใกล้เกิดขึ้น หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้น import tariff ธุรกิจเหล็กและอลูมิเนียม(ส่งผลกระทบด้านลบต่อราคาหุ้นผู้ส่งออกไปสหรัฐฯเช้านี้) ส่วนปัจจัยในประเทศจับตาร่างแก้ไขรธน.ของคณะกรรมาธิการร่วม ที่จะมีการโหวตวันนี้ ก่อนนำเข้าที่ประชุมสนช. เพื่อโหวตรับรองในสัปดาห์หน้า

ทางเทคนิค คาดว่า ดัชนีฯ จะปรับฐานชั่วคราว หลังทำสถิติสูงสุดใหม่ 1852.51 จุด เมื่อวันอังคาร โดยจุดลุ้นรีบาวด์ที่ 1815/1810 จุด หุ้นเด่นวันนี้ แนะนำหุ้นปันผลสูง

ประเด็นสำคัญวันนี้

1) – สหรัฐ: ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศตั้งกำแพงภาษีนำเข้า 25% และ 10% สำหรับเหล็กและอลูมิเนียม เพื่อช่วยให้ภาคอุตฯ กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ทำให้นักวิเคราะห์ส่งสัญญาณการเกิดสงครามการค้าเร็วๆ นี้ โดยผู้ส่งออกเหล็กรายใหญ่ไปสหรัฐฯ ได้แก่ แคนาดา 12.5% บราซิล 10% เกาหลีใต้ 7.8% ตามลำดับ (สหรัฐฯ-หุ้นกลุ่มยานยนต์ +กลุ่มผู้ผลิตเหล็ก; โลก-คาดส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกเหล็กไปสหรัฐฯ)

2) –เฟด : ประธานเฟดแถลงต่อกรรมาธิการการธนาคารวุฒิสภา ว่า หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยล่าช้ากว่ากำหนด และเงินเฟ้อเร่งขึ้นแรง จะเพิ่มความเสี่ยงที่เฟดต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต และเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเกิน 3 ครั้งปีนี้ มีความเป็นไปได้สูงขึ้น)

3) - น้ำมัน: WTI ปิดลบ 1.1% ปิดที่ 60.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต๊อคน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล สูงกว่าคาดการณ์ของตลาด

4)+/- โรดแมปเลือกตั้งไทย: จับตาร่างแก้ไขของคณะกรรมาธิการร่วม ในประเด็นที่เห็นต่าง และรอลุ้นที่ประชุม สนช. จะมีการลงมติในวันที่ 8 มี.ค.นี้

5)+/- FTSE: ประกาศ rebalance Index โดยมีผล16 มี.ค. เป็นต้นไป พบว่า หุ้นกลุ่ม Large Cap มีการเพิ่ม TOP SCC แต่ถอด SCC-F SCC (NVDR) ออก ส่วนกลุ่ม
Small Cap เพิ่ม M BCPG ORI และถอดออก DCC TLGF

กลยุทธ์

        รอซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 1815/1810 จุด

หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค )

        หุ้นมีประเด็นบวก TOP M BCPG ORI และหุ้นผลกำไรดี/มีปันผล ERW RS HMPRO TISCO