(สกู๊ป) คู่พี่น้องในประวัติศาสตร์ศึกกอล์ฟ“แอลพีจีเอ”

(สกู๊ป) คู่พี่น้องในประวัติศาสตร์ศึกกอล์ฟ“แอลพีจีเอ”

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการแข่งขันกอล์ฟที่ยิ่งที่สุดในประเทศไทยอย่าง “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” ซึ่งผลปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ เจสสิก้า คอร์ดา โปรจากสหรัฐ

     อย่างไรก็ตามอีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจในรายการนี้ นั่นก็คือ การปะทะกันของโปรพี่น้อง 2 ตระกูล ที่ผลงานกำลังแรงทั้งคู่ อย่าง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล มืออันดับ 7 ของโลก และ“โปรโม” โมรียา จุฑานุกาลมืออันดับ 19 ของโลก กับตระกูล คอร์ดา 2 ศรีพี่น้องจากแดนมะกัน ที่มี เจสสิกา คอร์ดา มืออันดับ 12 ของโลก และเนลลี คอร์ดา มืออันดับ 56 ของโลก ซึ่งทั้ง 4 คนก็ทำผลงานได้ดีในรายการที่ผ่านมา และถูกมองว่าจะมีการขับเคี่ยวของ โปรจาก 2 ตระกูลนี้ตลอดทั้งซีซั่นอย่างแน่นอน

      ถึงกระนั้นในประวัติศาสตร์ของแอลพีจีเอได้มีคู่พี่น้องถึง 8 คู่ ที่ได้รับการบันทึกว่าได้ลงลงเล่นในทัวร์ดังกล่าวมาแล้ว และมี 4 คู่ที่น่าสนใจ และทำผลงานได้ดีจนแฟนกอล์ฟหลายคนจดจำได้

แอนนิกา และชาร์ล็อตตา โซเรนสตัม

    เชื่อว่าแฟนๆของกอล์ฟหญิงในยุค 2000 คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก แอนนิกา โซเรนสตัม ยอดโปรจากแดนสวีดิช ที่ผงาดคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ไปถึง 10 รายการ และเป็นตำนานที่ได้รับการกล่าวถึงมาจวบจนปัจจุบัน
    โดยเจ้าตัวมีน้องสาวที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ และเริ่มเทิร์นโปรหลังจากที่สาวเพียง 2 ปีอย่าง ชาร์ล็อตตา โซเรนสตัม แต่จากการที่เจ้าตัวลงแข่งขันในช่วงที่พี่สาวตนเองกำลังท็อปฟอร์ม บวกกับในยุคนั้นมีนักกอล์ฟฝีมือพระกาฬอยู่หลายคน ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับพี่สาวร่วมสายเลือด
     อย่างไรก็ตามคู่พี่น้อง โซเรนสตัม ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นคู่พี่น้องตระกูลแรกที่คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ มาครองได้ทั้งคู่ โดย แอนนิกาได้มา 62 แชมป์ ขณะที่ ชาร์ลอตตา ได้มา 1 แชมป์ คือรายการ "สแตนดาร์ด รีจิสเตอร์ พีไอเอ็นจี" เมื่อปี 2000 และยังไม่มีใครมาล้มสถิติดังกล่าวลงได้

อารี และนารี ซง

     2 โปรพี่น้องคู่นี้มีความน่าสนใจหลายอย่างเนื่องทั้งคู่เป็นฝาแฝดคู่แรกที่ได้ลงเล่นในกอล์ฟรายการแอลพีจีเอ นอกจากนั้นทั้ง 2 คนยังเป็นลูกครึ่งไทยด้วย เนื่องจากมีคุณพ่อเป็นคนเกาหลีใต้ และคุณแม่เป็นคนไทย
ตอนแรกทั้งคู่โด่งดังมาตั้งแต่เป็นนักกอล์ฟเยาวชนของทีมชาติไทย เนื่องจากเกิดที่ประเทศไทยก่อนจะเปลี่ยนไปถือสัญชาติเกาหลีใต้หลังเทิร์นโปร ซึ่งทั้งคู่ลงเล่นในเวลาไล่เลี่ยกัน โดย อารี พี่สาวสตาร์ทในปี 2004 ส่วน นารี น้องสาวตามมาหลังจากนั้น 1 ปี
     ถึงกระนั้นทั้งคู่ไม่สามารถคว้าแชมป์ในระดับแอลพีจีเอรายการใดๆมาครองได้เลย โดยที่ใกล้เคียงที่สุดคือ อารี ที่ได้อันดับ 2 ในรายการ เอเอ็นเอ อินสไปร์เรชัน ในปี 2004 และอันดับ 5 ในรายการเมเจอร์อย่าง ยูเอส วีเมนส์ โอเพน ในปี 2003

เจสสิกา และเนลลี คอร์ดา

     2 โปรพี่น้องฟอร์มแรง ที่นอกจากจะมีผลงานที่โดดเด่นแล้ว ทั้งคู่ยังมีอารมณ์ขัน และเป็นผู้นำด้านแฟชั่นในสนามกอล์ฟ นั่นก็คือ เจสสิกา และ เนลลี คอร์ดา ซึ่งเป็นทายาทของ ปีเดตอร์ คอร์ดา อดีตนักเทนนิสอาชีพชื่อก้อง ที่เพิ่งได้ร่วมกรีนกันเป็นปีที่ 3 เท่านั้นเนื่องจากมีอายุห่างกัน 6 ปี
    เริ่มจาก คอร์ดา คนพี่ ที่เทิร์นโปรในปี 2011 ซึ่งขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น แต่ดจ้าตัวกลับนิ่งเกินอายุ และผงาดคว้าแชมป์แอลพีจีเอได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2012 ในรายการ วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพ่น จวบจนปัจจุบันเธอคว้าแชมป์มาแล้วเป็นจำนวน 5 รายการ โดยเป้าหมายสำคัญที่สุดของเธอในตอนนี้คือการซิวแชมป์ในระดับเมเจอร์ให้ได้
     ส่วน คอร์ดา คนน้อง ปัจจุบันมีอายุ 19 ปี ซึ่งเธอเริ่มเทิร์นโปรเมื่อปี 2015 และเป็นอีกหนึ่ง เนื่องจากสามารถไต่อันดับจากอันดับ 341 เมื่อปี 2016 มาเป็นที่ 56 ในปี 2017 โดย เจสสิกา กล่าวถึงน้องสาวว่า “เราแตกต่างกันมากในหลายๆเรื่อง เนื่องจากเธอมีจิตใจที่เข้มแข็ง และมีความตั้งใจในการทำสิ่งต่างๆอย่างแน่วแน่ ขณะที่ฉันเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่เธอก็เป็นคนที่น่ารัก และเป็นเพื่อนสนิทที่แสนดีของฉันเสมอ”
     ขณะที่ เนลลี พูดถึงพี่สาวว่า “ฉันภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก เธอคอยช่วยเหลือฉันเสมอในการทัวร์ไปทั่วโลก ซึ่งหากจะนิยามความสัมพันธ์ของฉัน กับพี่สาวนั้น สามารถบอกได้ง่ายๆว่า พี่น้องและ เพื่อนสนิท”

เอรียา และโมรียา จุฑานุกาล

    หากจะพูดถึงกีฬาที่นักกีฬาไทยทำผลงานได้ดีในระดับโลก หลายคนคงจะนึกถึงกอล์ฟหญิงที่มี 2 พี่น้องแห่งวงการอย่าง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล และ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล
     โดยทั้งคู่เริ่มเทิร์นโปรในเวลาใกล้ๆกันเหมือนกับพี่น้องคู่อื่นๆ และเป็น โปรเม ที่ประสบความสำเร็จมากกว่าเนื่องจากเคยขึ้นไปครองบัลลังก์มือ 1 โลกด้วยวัย 21 ปี เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ โปรโม ถือว่าขยับผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงหลัง ด้วยการคว้ารองแชมป์ในรายการ บลู เบย์ แอลพีจีเอ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์รองสุดท้ายของปี 2017 รวมถึงล่าสุดที่ได้รองแชมป์ใน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 จนขึ้นมาอยู่ในอันดับ 19 ของโลก
นอกจากนั้นพี่น้อง จุฑานุกาล ยังเคยออกรอบด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง โดย เอรียา กล่าวถึงความรู้สึกต่อพี่สาวว่า "ถึงแม้ว่าตัวเอง และโมจะทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันตลอดเวลา แต่หลายๆกิจกรรมทั้งคู่ถือว่าแต่ละฝ่ายต่างเป็นคู่แข่งกัน แต่ในใจแล้วก็รักกันมากเหมือนที่พี่กับน้องรักกัน"
    ขณะที่ "โปรโม" พูดถึงน้องสาวว่า "แม้จะเป็นคู่แข่งกันในบางเรื่อง รวมถึงเวลาออกรอบร่วมกันก็ไม่ค่อยได้คุยกันเนื่องจากต่างคนต่างต้องมีสมาธิ แต่ทั้งคู่ก็จะให้กำลังใจกันโดยตลอดทั้งในวันที่ทำผลงานดี และผลงาน
ไม่ดี"

     และนี่คือคู่พี่น้องที่ได้ลงแข่งขันในประวัติศาสตร์ของศึกกอล์ฟแอลพีจีเอ โดยต้องมาดูกันว่าจะมีคู่ใดสามารถคว้าแชมป์ได้ทั้งพี่น้องเหมือนตระกูล โซเรนสตัม หรือในอนาคตจะมีคู่พี่น้องไหนเข้ามาสอดแทรกในการแข่งขันทัวร์นาเมตน์นี้เพิ่มเติมหรือไม่