Classic Motorsport รวมสุดยอดรถสปอร์ต ระดับตำนานจากสนามแข่ง

Classic Motorsport รวมสุดยอดรถสปอร์ต ระดับตำนานจากสนามแข่ง

ซีคอนสแควร์ ร่วมกับ สมาคมรถคลาสสิค ประเทศไทย จัดงาน "Classic Motorsport" การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของรถสปอร์ตสุดคลาสสิก ที่สร้างชื่อจนเป็นตำนานบนสนามแข่งขัน พร้อมรถยนต์ที่หาชมได้ยากและเป็นรถในฝันของใครหลายคนรวมกว่า 30 คัน

นางรัชนี ปรีดากมลรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมการตลาด ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับ สมาคมรถคลาสสิค ประเทศไทย จัดงาน "Classic Motorsport" ระหว่างวันที่ 2 – 11 มีนาคม 2561 ณ ลานน้ำพุ ชั้น 1 ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้า และประชาชนทั่วไป ได้ชื่นชมความงดงามของรถสปอร์ตสุดคลาสสิก ที่สร้างชื่อจนเป็นตำนานบนสนามแข่งขันระดับโลกที่หาชมได้ยากยิ่ง กว่า 30 คัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เนรมิตเป็นสนามแข่งขันรถยนต์สุดคลาสสิก อาทิ

Porsche 550 SPYDER ปี 1955 สุดยอดรถยนต์ปอร์เช่สุดคลาสสิกในตำนาน ที่ทุกคนต่างจดจำกันได้เป็นอย่างดี เป็นรถสปอร์ตที่ผลิตในช่วงปี 1953-1956 เครื่องยนต์ 4 สูบ 1490 cc. 110 แรงม้า ระบายความร้อนด้วยอากาศ ความเร็วสูงสุด 129 ไมล์/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-60 ไมล์ ใช้เวลา 7.2 วินาที ด้วยความตั้งใจจะสร้างมาเพื่อแข่งขันในสนามโดยตรง ตัวรถจึงมีความเตี้ยเป็นพิเศษ ใต้ท้องรถต่ำจนเกือบติดพื้นถนน รูปทรงด้านนอกแนวสไปเดอร์ ไร้หลังคา ออกแบบโดย Walter Glckler ถูกนำไปโชว์ตัวครั้งแรกในงานปารีส ออโต้โชว์ ปี 1953 ซึ่งสามารถคว้าชัยชนะในหลายสนามทั้งในฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ รวมถึงสนามเนอร์เบิร์กริงของเยอรมนี พร้อมกับยังเข้าที่สองในการแข่งขันเลอมังส์อีกด้วย Porsche 550 Spyder รุ่นนี้เป็นรถยนต์คู่ใจของพระเอกตลอดกาล เจมส์ ดีน ซึ่งใช้ประกอบภาพยนตร์ เรื่อง Giant Killer รถ Porsche 550 Spyder ผลิตในจำนวนจำกัด จึงนับเป็นรถคลาสสิกที่หายากและเป็นที่ต้องการของนักสะสมรถทั่วโลก การประมูลของสำนัก Bonhams' จึงปิดที่มูลค่าสูงถึง 5-17 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 160 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นสถิติใหม่ของรถรุ่นนี้

PORSCHE 911 SWB HORNGRILL ปี 1966 SWB เป็นความสำเร็จที่ต่อยอดมาจาก รุ่น 356, 912 และ 911 ทาร์ก้า รูปทรงของรถยังมีความคล้ายกับ 356 อยู่มาก แต่เริ่มมีการเพิ่มความหรูหราให้กับตัวรถ ด้วยการนำขอบคิ้วโครเมียมมาใช้กับกรอบกระจกและประตู ล้อกระทะทึบๆ ถูกเปลี่ยนมาเป็นลวดลาย 5 แฉก ภายในตกแต่งด้วยลายไม้ที่คอนโซล และเบาะหนังแท้ เครื่องยนต์ 4 สูบในรุ่น 912 ถูกปรับมาเป็น 6 สูบ บ๊อกเซอร์ 2.0 ลิตร คาร์บูเรเตอร์คู่ ส่งกำลังผ่านเกียร์ 5 จังหวะ มีพละกำลัง 130 แรงม้า ปอร์เช่ 911 ถูกปรับเปลี่ยนกันไปสารพัด ทั้งปรับบอดี้เป็นรถทาร์ก้า เปิดประทุน หรือจะปรับขนาดของเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นตามยุคสมัย เช่น คันนี้ได้ถูกโมดิฟายเครื่องยนต์ให้มีพละกำลัง 230 แรงม้า แต่ยังมีปอร์เช่ 911 อีกรุ่นที่ผลิตออกมาในช่วงปี 1965-1966 เป็นรถที่มีฐานล้อสั้นกว่ารถปอร์เช่รุ่นอื่นๆ เราจึงขนานนามมันว่า 911 SWB ซึ่งผลิตออกมาน้อยมาก และยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

Alfa Romeo 1750 GTAm ปี 1969 รถรุ่นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นรถแข่งโดยเฉพาะ ได้รับการโมดิฟายด์มากจากรุ่นGTV รถรุ่น GTAm นี้ไม่ได้ผลิตโดยตรงจากโรงงาน Alfa Romeo แต่จะส่งตัว Alfa Romeo GTV ไปยังบริษัท Autodelta เพื่อโมดิฟายด์ ตัวรถจะมีความกว้างกว่ารุ่นGTV เพื่อให้ใช้ยางที่มีหน้ากว้างกว่าได้เครื่องยนต์ที่ใช้ในรถรุ่นนี้ จะมีตั้งแต่ 1779 CC ถึง 1999 CC มีทั้งใช้ระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์และหัวฉีด

FERRARI 308 GTB เครื่อง V8 mid-engined เป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั้ง ผลิตโดย บริษัท อิตาเลียนเฟอร์รารี ในปี 1975 -1985 The 308 ได้นำมาแทนที่ the Dino 246 GT and GTS ในปี 1975 และ ได้มีการปรับปรุงเป็น the Ferrari 308 GTB ในปี 1985.The Ferrari 308 GTB ได้รับการแนะนำให้รู้จัก ในงาน Paris Motor Show ในปี พ. ศ. 2531

BMW 2002 Turbo ปี 1974 หนึ่งในยนตรกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู เพราะเป็น 2002 รุ่นเทอร์โบ ที่ทำมาได้ครบสมบูรณ์มากๆ สามารถลงแข่งได้จริงจัง ตำนานของ 2002 เริ่มด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 108 แรงม้า สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ 2002 เทอร์โบ แรงกว่านั้นมาก มันเปิดตัวที่งานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ปี 1973 เป็นรถที่มีกำลังถึง 170 แรงม้า บนบอดี้ของรถเก๋งแฮชท์แบ็คสองประตู วิ่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 7 วินาที ถือว่าเป็นรถที่ฮือฮามากในยุโรป และได้ร่วมเข้าแข่งขันความเร็วหลายรายการ BMW 2002 Turbo ที่ผลิตในปี 1974 เป็นรถในฝันของนักสะสม ผลิตจำนวนทั้งหมด 1,672 คัน (1973-1974) และนี่คือรถยนต์แบบใช้วิ่งบนถนนธรรมดารุ่นแรกของ BMW ที่ติดตั้งเทอร์โบอีกด้วย