'อัศวิน' ยันเยียวยาผู้ค้าตลาดรอบบ้าน ‘ป้าทุบรถ’ เต็มที่

'อัศวิน' ยันเยียวยาผู้ค้าตลาดรอบบ้าน ‘ป้าทุบรถ’ เต็มที่

"ผู้ว่ากทม." ยันเยียวยาผู้ค้าตลาดรอบบ้าน "ป้าทุบรถ" เต็มที่ จี้ตลาดเก่า-ใหม่ขออนุญาตให้ถูกต้อง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงผลภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม.เรื่องกรณีพิพาทตลาดเขตประเวศ และแนวทางการแก้ไขปัญหา ภายในซอยศรีนครินทร์ 55 เขตประเวศ กทม. ว่า สำหรับกรณีข้อพิพาทยังไม่มีข้อสรุปในช่วงเช้านี้ ทำให้กทม.ได้จัดประชุมในรายละเอียดกรณีข้อพิพาทอีกครั้ง ในเวลา 14.00 น.ของวันนี้ โดยมี นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม คาดจะมีข้อสรุปชัดเจน

เบื้องต้นกทม.จะปฎิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองที่กำหนดวิธีคุ้มครองชั่วคราวผู้ฟ้องทั้ง 3 รายที่มีข้อพิพาทอยู่ คือ น.ส.บุญศรี น.ส.รัตนฉัตร และน.ส.ราณี แสงหยกตระการ ซึ่งได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการจัดตั้งตลาด ทั้งทางเสียง กลิ่น แสงและผู้จับจ่ายซื้อของภายในตลาดรอบบ้าน รวมถึงเหตุเสียงดังรำคาญ ส่วนนี้กทม.อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามคำสั่งของศาล พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจัดจราจรไม่ให้เจ้าของได้รับผลกระทบจากการจอดรถกีดขวางทางเข้า-ออก

ส่วนตลาดที่มีปัญหาทั้ง 5 แห่งนั้น ตลาดใดที่สั่งปิดกิจการก็ให้ไปดำเนินการตามกฎหมายแล้วมาขอใบอนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนตลาดที่ต้องแก้ไขจำเป็นต้องแก้ไขตามข้อกฎหมายให้ถูกต้อง ขณะที่ตลาดอื่นทั่วกรุงเทพฯ นั้น เบื้องต้นพบมีตลาดได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และใบอนุญาตจัดตั้งตลาดตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 รวม 347 แห่ง และตลาดที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายกทม.อยู่ระหว่างสำรวจทุกตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นตลาดใดที่ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้เจ้าของตลาดขออนุญาตก่อสร้างและจัดตั้งตลาดให้ถูกต้องด้วย

“ขณะเดียวกันตลาดที่มีข้อพิพาทนั้น กทม.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย สมาชิกสภากทม. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และรองอธิบายอัยการ สำนักงานการบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น เพื่อให้ได้ผลสรุปเป็นธรรม” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

สำหรับแนวทางการเยียวยานั้น นอกจากกทม.ต้องเยียวยาผู้ฟ้องแล้ว จะต้องดูแลกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตลาดด้วย ถือว่าผู้ค้าเป็นที่มีเจตนาบริสุทธิ์ คงไม่มีทางรู้ว่าตลาดที่ค้าขายนั้นถูกหรือผิดกฎหมาย เพราะตลาดได้เปิดให้ผู้ค้ามาเช่าขาย ขณะที่ผู้ค้ามีเจตนาบริสุทธิ์ก็ไปเช่าทำการค้า ดังนั้น ผู้ค้าเป็นบุคคลที่สาม เป็นเหยื่อที่อยู่นอกเหนือความขัดแย้งระหว่างผู้ฟ้องและเจ้าของตลาด กทม.จะหาทางเยียวยาอย่างเต็มที่ โดยจะจัดหาพื้นที่รองรับลดผลกระทบจากความเดือดร้อน คนไทยด้วยกัน ยืนว่าต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว