ไทยนิยม5วันทะลุ 1.5 ล้านคน! มท.ยันทีมตำบลฟิตเดินหน้าทำประชาคม

ไทยนิยม5วันทะลุ 1.5 ล้านคน! มท.ยันทีมตำบลฟิตเดินหน้าทำประชาคม

“ไทยนิยม ยั่งยืน” 5 วันทะลุ 1.5 ล้านคน! มท.ยันทีมตำบล เดินหน้าทำประชาคมตลอดไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์

วันนี้ (25 ก.พ.61) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบดำเนินโครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนฯ ในระดับพื้นที่ ซึ่งได้เริ่มคิกออฟ (Kick off) เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา โดยทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศระดับตำบล จำนวนกว่า 7,600 ทีม ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนเพื่อทำประชาคมหมู่บ้าน/ชุมชน ในทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร ซึ่งพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาความจำเป็นของหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อจะเสนอขอรับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมีกรอบห้วงเวลาครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 21 ก.พ. – 20 มี.ค.2561

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมา ทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบล ได้ลงพื้นที่แล้วกว่า 1.2 หมื่นชุมชน/หมู่บ้าน มีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจเดินทางเข้าร่วมทำประชาคมหมู่บ้าน/ชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดประชาชนร่วมทำประชาคมทะลุ 1.5 ล้านคน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.พ.2561) ซึ่งตลอดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบลยังคงเดินหน้าลงพื้นที่พบปะพูดคุยสอบถามและทำประชาคมหมู่บ้าน/ชุมชนอย่างแข็งขัน ทั้งในช่วงกลางวัน และช่วงค่ำ สำหรับการประมวลผลภาพรวมสภาพปัญหา และความต้องการของพี่น้องประชาชนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน คาดว่าจะประมวลผลในเบื้องต้นได้ในสัปดาห์หน้า

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมทำประชาคมกับทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบล ตามเวลาที่นัดหมายกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และสำหรับหมู่บ้าน ชุมชนใดที่ยังไม่ถึงกำหนดเวลาการทำประชาคม พี่น้องประชาชนสามารถร่วมกันเตรียมข้อมูล ร่วมกันวิเคราะห์ สังเคราะห์ ปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนหมู่บ้านเป็นการล่วงหน้าได้ ว่าปัญหาเดือดร้อนใดที่เป็นเรื่องของหมู่บ้านที่ต้องแก้ไข เพื่อให้เกิดความสุขขึ้น และเมื่อทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบล เข้าไปในพื้นที่ พี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน จะได้ร่วมกันนำปัญหาเหล่านั้นมาสะท้อนและทำประชาคมตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืนเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน