'คสช.' จับตา 'กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง' หลังนักการเมืองร่วมแจม

พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่ามีความต้องการที่อยากจะให้มีการเลือกตั้ง โดยภาพรวมในการชุมนุมเมื่อวานนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อย่างที่ตนเคยเรียนให้ทราบก่อนหน้านี้แล้วว่าสถานที่จัดงานเมื่อวานนี้ อยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณบดีและอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่านก็คงรับทราบ แล้วก็น่าจะมีการประสานงานโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง ที่จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้น ส่วนกิจกรรมนั้นอยู่ที่ผู้จัดกับผู้ฟังว่าจะมีแนวทางในการเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร โดยรวมแล้วคสช. ได้อธิบายไปในรายละเอียด หลายครั้งแล้วว่าในสภาวะบ้านเมืองในขณะนี้ คนส่วนใหญ่ต้องการความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การดำเนินงานตามโรดแม็พ ก็ยังยืนยันว่า ต้องมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจในการบริหารประเทศ และการบริหารราชการแผ่นดินไปสู่รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ไม่ได้มีอะไรที่ผิดไปจากนี้

เมื่อถามว่า คสช.จะมีการดูแลสถานการณ์ในการชุมนุมครั้งต่อไปอย่างไร เพราะเริ่มมีอดีตนักการเมืองเข้ามาร่วมในการชุมนุมด้วย พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงก็คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มทุกฝ่าย โดยเฉพาะกิจกรรมที่ได้ระบุวันเอาไว้ว่าในการดำเนินการอะไรก็ตาม เราขอความร่วมมือให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย หากไปกระทบสิทธิของผู้อื่น มันก็จะมีผลที่จะตามมาในสิ่งที่พวกเราทุกคนก็ไม่ปรารถนา

"ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คงเข้าไปดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย ในช่วงเวลาสำคัญเหล่านี้ผมเชื่อว่า ยังคงไม่น่าจะมีอะไร เพราะว่าพี่น้องประชาชน คนส่วนใหญ่ของประเทศ น่าจะยังยืนยันในบรรยากาศของความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตอันใกล้นี้ ผมว่ามันก็ไม่ได้เกินไปกว่าโรดแม็พที่ได้บอกเอาไว้" ทีมโฆษกคสช. กล่าว

เมื่อถามว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมเกินกว่า5 คนหรือไม่ พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า กลุ่มที่มาใช้พื้นที่ของสถานศึกษาในการจัดงานทางฝ่ายความมั่นคงได้พิจารณาและมองด้วยใจเป็นกลางในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติงาน เราให้มองว่าเป็นการจัดงานทางด้านวิชาการ มองว่าเป็นปัญญาชนเป็นผู้จัดกิจกรรม การจะทำอะไรก็ตามจะต้องรักษาความสงบเรียบร้อย เราถือประเด็นนั้นเป็นเรื่องหลัก หากดูแล้วว่าเข้าข่ายทำผิดกฏหมาย หรือขัดต่อคำสั่งของคสช.หรือไม่นั้นก็ไปว่ากันทีหนึ่ง