'สธ.' ตั้งเป้ากวาดล้าง 'พิษสุนัขบ้า' ให้หมดจากประเทศ

'สธ.' ตั้งเป้ากวาดล้าง 'พิษสุนัขบ้า' ให้หมดจากประเทศ

"กระทรวงสาธารณสุข" ตั้งเป้าเร่งรัดป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมติดตามผู้สัมผัสมารับวัคซีนได้ครบ 100% หวังกวาดล้างให้หมดจากประเทศ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมปศุสัตว์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561-กุมภาพันธ์ 2561 พบสุนัข-แมวเป็นพิษสุนัขบ้า 247 ตัว สูงกว่าระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 1.5 เท่า และพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่จังหวัดสุรินทร์และสงขลา ทั้งสองรายถูกลูกสุนัขกัด เห็นว่าเป็นแผลเล็กน้อย และไม่ไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีน จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดมาตรการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในปี 2561 ให้ดำเนินการตาม "มาตรการ 1-2-3" ดังนี้

1.กรณีที่พบสัตว์ป่วย ให้กรมปศุสัตว์และกระทรวงสาธารณสุข แจ้งข่าว สอบสวน ควบคุมโรคร่วมกัน 2.ติดตามผู้สัมผัสโรคมารับวัคซีน ภายใน 2 วัน 3.สอบสวนและควบคุมโรคในพื้นที่ แจ้งข้อมูล และฉีดวัคซีนรอบจุดเกิดเหตุ ในรัศมีอย่างน้อย 3 กิโลเมตร และให้เพิ่มความเข้มข้นหากพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า โดยในระดับจังหวัดใช้กลไกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สอบสวน ค้นหา ติดตาม ทั้งคนและสัตว์ในทุกอำเภอ เพื่อลดจำนวนคนถูกกัดในพื้นที่เสี่ยง ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ส่ง อสม. เคาะประตูบ้าน ทำการสื่อสารความเสี่ยงในวงกว้าง และให้วัคซีนรอบจุดเกิดโรค ในส่วนของระดับอำเภอและตำบลใช้กลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ดำเนินการ

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า เป้าหมายของมาตรการเร่งรัดการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าคือ ค้นหาติดตามผู้สัมผัสทุกคนมารับวัคซีนได้ครบ 100% ลดจำนวนคนถูกกัดในพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ เร่งรัดการควบคุมโรคในพื้นที่โรคเกิดโรคในสัตว์อย่างเข้มข้น โดยขอร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ นำสุนัข-แมวไปรับวัคซีนเป็นประจำทุกปี ทำหมัน และเลี้ยงสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ ไม่นำไปทิ้งในที่สาธารณะเพิ่มภาระให้สังคม

"กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินหน้าเร่งรัดมาตรการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ภายใต้โครงการ "สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า" ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงห่วงใยและมีพระประสงค์ลดปัญหาสุนัขจรจัด กวาดล้างโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย และเพิ่มการฉีดวัคซีนในสัตว์เลี้ยงมากกว่าร้อยละ 80" รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าว

พร้อมระบุว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการร่วมมือป้องกัน โดยเริ่มตั้งแต่การเลี้ยงสุนัข-แมวในจำนวนที่พอเหมาะ คุมกำเนิดด้วยการทำหมัน พาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี เลี้ยงในบ้าน อย่าปล่อยออกไปนอกบ้าน เพราะหากถูกหมาบ้ากัดก็อาจติดโรคพิษสุนัขบ้าได้ หากทุกคนช่วยกัน จะลดการเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างแน่นอน

"ขอย้ำว่า เมื่อถูกสุนัขแมวกัดหรือข่วน ให้รีบล้างบาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง จากนั้นให้รีบมาพบแพทย์เพื่อประเมินว่าต้องรับวัคซีนหรือไม่ และต้องมาฉีดวัคซีนให้ตรงตามนัดทุกครั้ง เพราะวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าต้องฉีดให้ครบชุดจึงจะได้ผล ไม่เช่นนั้นจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า และเสียชีวิตทุกราย" นพ.โอภาสกล่าว