"แอร์บีแอนด์บี"ชูโรดแมพดันลูกค้า 1พันล้านคนต่อปี

"แอร์บีแอนด์บี"ชูโรดแมพดันลูกค้า 1พันล้านคนต่อปี

หลังจากเปิดมาแล้ว 10 ปี "แอร์บีแอนด์บี" สตาร์ทอัพจากสหรัฐที่ก้าวเป็นธุรกิจระดับโลก ยังคงวางกลยุทธ์เติบโตต่อเนื่อง ด้วยการประกาศเปิดตัวโรดแมพ 10 ปีข้างหน้า ณ เมืองซานฟรานซิสโก สำนักงานใหญ่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา

ไบรอัน เชสกี้ ผู้ร่วมก่อตั้งแอร์บีแอนด์บี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าฝ่ายชุมชนแอร์บีแอนด์บี เปิดเผยว่า ในรอบ 10 ปีต่อไปนี้ มีเป้าหมายกระตุ้นตลาดทำให้เกิดการเข้าพัก "1 พันล้านคนขึ้นไปต่อปี" ภายในปี 2571

ปัจจุบันแอร์บีแอนด์บีมี ที่พักกว่า 4.5 ล้านแห่งใน 8.1 หมื่นเมือง สร้างรายได้ให้เจ้าของที่พักทั่วโลกกว่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.29 ล้านล้านบาท) จากการเข้าพักกว่า 300 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างมากในรอบ 10 ปี ดังนั้นจึงต้องนำมาสู่การปรับโฉมธุรกิจครั้งใหญ่ เพื่อให้เข้าถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“การก่อตั้งแอร์บีแอนด์บีในช่วงแรก มีฐานความคิดในฐานะที่เป็นธุรกิจที่ขนาดเล็กกว่าวันนี้มาก แต่ปัจจุบันเมื่อจำนวนบ้านพักเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4.5 ล้านแห่ง จึงต้องมีการปรับแนวทางการให้บริการใหม่เพื่อจุดหมายคือให้แอร์บีแอนด์บีเข้าถึงทุกคนทั้งหมด”

ในปี 2552 แอร์บีแอนด์บีมีลูกค้าเข้าพักเพียง 400 คน แต่ในปัจจุบันมีการเช็คอินของลูกค้าแอร์บีแอนด์บี 400 คนทุกๆ 4 นาที หรือคิดเป็นอัตรา 3 คนต่อ 1 วินาที

ภายใต้โรดแมพดังกล่าว ในปีนี้จึงพร้อมเปิดตัวบริการใหม่ 5 เรื่อง ซึ่งเป็นการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในฝ่าย "เจ้าของที่พัก" (Host) และ "ผู้เข้าพัก" (Guest) รวมถึงชุมชน

เริ่มจากการบริการสำหรับผู้เข้าพัก เดินหน้าปรับปรุงเครื่องมือการค้นหาขั้นสูงในระบบให้ตรงกับความต้องการเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพิ่มประเภทที่พักใหม่ 4 ประเภท ได้แก่ "เวเคชั่น โฮม" หรือบ้านพักสำหรับทุกโอกาส, "ยูนิค" สำหรับการค้นหาที่พักซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัว เช่น บ้านบนต้นไม้, บนเรือ เป็นต้น รวมถึง "บีแอนด์บี" และ "บูทีค" หมายรวมถึงโรงแรมและรีสอร์ท ซึ่งในปีที่ผ่านมามีจำนวนจดทะเบียนกับแอร์บีแอนด์บีเพิ่มขึ้นถึง 100% และ 520% ตามลำดับ ถือเป็นการเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิมเพียง 3 ประเภท ได้แก่ ห้องแบบแบ่งปัน (Shared Space), ห้องเดี่ยวส่วนตัว (Private Room) และบ้านทั้งหลัง (Entire Home)

นอกจากนั้น ยังรุก"ตลาดไฮเอนด์" แบบเจาะจงมากขึ้น ด้วยการเพิ่มระดับชั้นของที่พักใหม่ 2 ระดับได้แก่ "แอร์บีแอนด์บี พลัส" และ "บียอนด์ บาย แอร์บีแอนด์บี" 

โดยแอร์บีแอนด์บี พลัส เป็นโปรรวมรวมที่พักซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบเกณฑ์อย่างละเอียด 100 รายการ อาทิ ความสะอาด, ความสะดวกสบาย และการออกแบบ เพื่อเข้ามาอยู่ในกลุ่ม วางราคาเฉลี่ยที่พักในระดับนี้อยู่ที่ 250 ดอลลาร์ต่อคืน (ราว 7,800 บาท) พร้อมนำร่องนำเสนอด้วยบ้านพัก 2,000 แห่งใน 13 ประเทศ และจะขยายเป็น 7.5 หมื่นแห่งใน 50 ประเทศขึ้นไปภายในปีนี้

หลังจากดำเนินโครงการนำร่องพบว่า บ้านพักที่ได้รับรองได้รับการสอบถามและจองมากกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับที่พักทั่วไป และผู้เข้าพัก 73% ระบุว่ายอมจ่ายมากกว่าเพื่อบ้านพักที่ได้รับการรับรอง

ทั้งนี้ เจ้าของที่พักแอร์บีแอนด์บี พลัส จะได้รับประโยชน์เพิ่มเติม ได้แก่ อิน-โฮม เซอวิสเซส (in-home services) บริการสนับสนุนต่างๆ เกี่ยวกับที่พัก เช่น ให้คำปรึกษาในเกี่ยวกับการตกแต่งภายในที่พัก, ภาพถ่ายที่พักแบบมืออาชีพ และบริการสนับสนุนเกี่ยวกับบ้านพักแบบพรีเมียม

ส่วน บียอนด์ บาย แอร์บีแอนด์บี ต่อยอดมาจากการเข้าซื้อกิจการของ "ลักชัวรี รีทรีตส์" แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมที่พักหรูเมื่อปีที่ผ่านมา โดยวางแผนว่าจะช่วยทำให้แอร์บีแอนด์บีเข้าถึงตลาดระดับไฮเอนด์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเน้นการนำเสนอที่พักที่มีความโดดเด่นสูงทั่วโลก เข้ากับบริการจัดการประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เน้นความพิเศษเป็นส่วนตัว เนื่องจากเตรียม “นักออกแบบการเดินทาง” ทำหน้าที่จัดทริปเพื่อตอบสนองความต้องการโดยเฉพาะ คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวได้ตั้งแต่ เม.ย.เป็นต้นไป

ขณะเดียวกันเตรียมเปิดตัว "ซูเปอร์เกสต์" ลอยัลตี้โปรแกรมสำหรับสมาชิกเป็นครั้งแรก โดยพร้อมนำร่องก่อนด้วยสมาชิก 1 หมื่นคน ซึ่งจะมีการเปิดตัวรายละเอียดโครงการภายในปีนี้

ด้านการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเจ้าของที่พัก ซึ่งเป็นจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของแอร์บีแอนด์บีมากที่สุด ยังมีแผนการลงทุนเพื่อกลุ่มนี้ต่อเนื่องด้วยโปรแกรม "ซูเปอร์โฮสต์" ในฉบับปรับปรุงใหม่พร้อมเปิดตัวภายในปีนี้ โดยจะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์อีก 14 รายการ รวมเป็น 19 รายการ เพื่อให้กับเจ้าของที่พักซึ่งทำได้ในมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าของที่พักซึ่งเข้าเกณฑ์ซูเปอร์โฮสต์กว่า 4 แสนรายทั่วโลก ขณะที่สิทธิประโยชน์ที่จะเพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มโอกาสในการ "เข้าถึง" ลูกค้า เช่น ได้ URL เฉพาะที่พักเพื่อสะดวกในการค้นหา, ได้สิทธิประโยชน์การใช้สมาร์ท โฮม โปรดักส์ หรือมีโอกาสขึ้นไปอยู่ลำดับต้นของการค้นหาด้วย

ทางด้าน ธุรกิจแอร์บีแอนด์บีในไทยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (ก.พ.2560 - ก.พ.2561) ที่พักทั่วประเทศทำรายได้รวมกันราว 4,000 ล้านบาท โดยมีผู้เข้าพักราว 1.2 ล้านคนตลอดปี 2560 เติบโตกว่า 66% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีที่พักลงทะเบียนกับแอร์บีแอนด์บีกว่า 6.14 หมื่นแห่ง รายได้เฉลี่ยซึ่งเจ้าของที่พักได้รับอยู่ในราว 6.7 หมื่นบาทต่อปี

สำหรับจุดหมายในไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ซึ่งที่พักทั้งหมดสร้างรายได้ 1,100 ล้านบาท จากผู้เข้าพัก 4.85 แสนคน และ ภูเก็ต มีรายได้รวม 995 ล้านบาทตามลำดับ โดยเจ้าของที่พักแบบมาตรฐานมีรายได้เฉลี่ย 1.08 แสนบาท