สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 2561

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- เงินบาททยอยอ่อนค่า โดยเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ ตามแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ ก่อนการเปิดเผยบันทึกการประชุมเฟดเดือนม.ค. นอกจากนี้ กระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ เพื่อทำกำไร และปรับโพสิชันจากที่แข็งค่าขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้

- สำหรับในวันศุกร์ (23 ก.พ.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 31.47 บาทต่อดอลลาร์ จากระดับ 31.31 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 ก.พ.)  

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26 ก.พ.-2 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.00-31.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตาจะอยู่ที่รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนม.ค. และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของไทย ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ สุนทรพจน์เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ข้อมูลรายได้-การใช้จ่ายส่วนบุคคล และตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนม.ค. 2561 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ. 2561 นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดใกล้ระดับ 1,800 จุด แม้เผชิญแรงขายระหว่างสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,808.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.12% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นประมาณ 35.61% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 64,317.02 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 514.99 จุด ลดลง 2.24% จากสัปดาห์ก่อน

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ หลังมีแรงหนุนเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยทยอยปรับลดลงจากหลุดระดับ 1,800 จุด ในช่วงต่อมา ท่ามกลางแรงกดดันจากแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในระหว่างสัปดาห์ กดดันตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ดีดตัวกลับมายืนเหนือระดับ 1,800 จุดได้อีกครั้ง ตามภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลก อีกทั้งยังมีแรงหนุนในหุ้นของบจ.ที่ประกาศผลประกอบการออกมาดี

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26 ก.พ.-2 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,800 และ 1,790 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,815 และ 1,840 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟด (28 มี.ค.) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค. และดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนก.พ. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีงวดไตรมาส 4/2560 ของประเทศในแถบยุโรป ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตของหลายประเทศในยุโรปและเอเชีย