อดีต ส.ส. เพื่อไทยพบ 'ทักษิณ' แค่เรื่องส่วนตัว

อดีต ส.ส. เพื่อไทยพบ 'ทักษิณ' แค่เรื่องส่วนตัว

"ภูมิธรรม" ออกแถลงการณ์ อดีต ส.ส. เพื่อไทยพบ "ทักษิณ" แค่เรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวมีอำนาจควบคุมพรรค ยันทำตามกฎหมาย

นายภูมิธรรม เวชยชัย  เลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้ออกแถลง กรณีที่มีข่าวว่าอดีต ส.ส.ของทางพรรค เดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและหารือเกี่ยวกับผุ้นำพรรค โดยระบุว่า  ตนขอเสนอความเห็นว่า การพบปะเยี่ยมเยียนบุคคลอันเป็นที่เคารพรักของตนในช่วงเวลาสำคัญๆ ตามประเพณีบางครั้ง หากจะมีและเกิดขึ้นจริงตามที่เป็นข่าวนั้น  ย่อมถือเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของสมาชิกพรรคแต่ละท่าน ที่มีความระลึกถึงและปรารถนาจะพบกับอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพรักของตน เป็นการแสดงออกอย่างเปิดเผย บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่มนุษย์พึงมีต่อมนุษย์ และเป็นการแสดงความเคารพนับถือตามวัฒนธรรมที่ถือปฏิบัติกันต่อมาโดยตลอด ดังเช่นในช่วงเวลาสำคัญที่เป็นเทศกาลปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีน ต้องถือเป็นเรื่องปกติ ที่ไม่ได้มีนัยสำคัญทางการเมืองใดๆ แต่การแสดงออกเช่นนี้กลับถูกนำมาเป็นเงื่อนไขทางการเมืองเพื่อลิดรอนหรือตัดตอนพรรคการเมืองที่เห็นต่างเหมือนในหลายกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้เคยถูกกระทำมาแล้ว

พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคล  มีหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งทุกท่านล้วนเป็นตัวแทนของพรรคที่ได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกพรรคตามกระบวนการทางกฎหมายและเป็นไปตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย  คณะกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและคณะกรรมการบริหารแต่ละชุดจึงถือเป็นผู้แทนพรรคการเมืองอย่างถูกต้องและชอบธรรมทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย   การตัดสินใจสำคัญใดๆ ของพรรคเพื่อไทย ล้วนดำเนินการและเกิดขึ้นโดยอาศัยกระบวนการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารอย่างมีระบบและแบบแผน อำนาจการตัดสินใจใดๆ  ของคณะผู้บริหารพรรค จำเป็นต้องรับฟังความเห็นจากสาขาพรรค จากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค  และที่สำคัญต้องอยู่บนพื้นฐานการรับฟังความเห็นอย่างกว้างขวางจากสมาชิกพรรค รวมถึงความต้องการของประชาชน ที่จะเป็นฝ่ายเสนอและตรวจสอบการดำเนินการตามระบบของพรรค จึงไม่สามารถที่จะมีการบงการ สั่งการ หรือโน้มน้าวใดๆ จากปัจเจกบุคคลตามที่ถูกนำมากล่าวอ้างได้ การนำประเด็นความห่วงใยมาบอกกล่าวต่อกันก็เป็นการสื่อสารเชิงบวกที่ผู้ใหญ่มีต่อบุคคลนั้นๆ ด้วยความปรารถนาดี มิใช่การสั่งการ ควบคุม กำหนดเงื่อนไขทางการเมืองต่อพรรค การนำประเด็นดังกล่าวนี้ไปสร้างเป็นเงื่อนไขในการยุบพรรค จึงเป็นบทละครเดิมๆ ที่ถูกนำมาใช้อย่างสม่ำเสมอ ในอีกด้านหนึ่งก็คือ การแสดงออกถึงความวิตกกังวลของอำนาจตนที่กำลังคลอนแคลนในปัจจุบัน จนต้องพยายามหาเหตุกลั่นแกล้ง ทำลายหรือกำจัดผู้มีความเห็นแตกต่างทางการเมืองกับฝ่ายตน ซึ่งผู้ที่รักความเป็นธรรมในสังคมต่างเข้าใจและประจักษ์ชัดกลเกมนี้อยู่แล้ว

ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งกิจกรรมทางการเมืองโดยเฉพาะเรื่องการคัดเลือกตัวผู้สมัคร รวมถึงผู้นำพรรค เป็นสิ่งที่ไม่สามารถดำเนินการให้เกิดขึ้นได้ในปัจจุบัน เพราะพรรคยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ได้ ฉะนั้นกระแสข่าวที่พูดถึงการจัดวางตัวผู้สมัครและผู้นำพรรคจึงไม่มีมูลความจริงทั้งสิ้น 

"ผมในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งหนึ่ง ในกรอบการดำเนินการทางการเมืองของพรรคดังกล่าวข้างต้น และพรรคได้มีการสื่อสารต่อท่านสมาชิกพรรคให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นอันจะนำไปสู่การเข้าใจผิด และเกิดการตีความที่ทำให้ผู้ที่ไม่ปรารถนาดีต่อพรรคหยิบยกมาเป็นประเด็นการสร้างความเข้าใจผิดและกล่าวหาโจมตีพรรคได้
ผมขอเรียกร้องให้ยุติการกล่าวร้ายและการสร้างความเข้าใจผิดต่อพรรคเพื่อไทย  และขอใช้พื้นที่ผ่านสื่อมวลชนแลกเปลี่ยนกับทุกฝ่าย เพื่อขอให้เราช่วยกันใช้ช่วงเวลาดังกล่าวอำนวยให้เกิดความสามัคคีและการสร้างประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นแก่พี่น้องประชาชน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในยามนี้"