ชี้อดีตส.ส.พท.เดินทางพบ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' อาจเข้าข่ายผิดรธน.

ชี้อดีตส.ส.พท.เดินทางพบ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' อาจเข้าข่ายผิดรธน.

คสช.ชี้อดีตส.ส.เพื่อไทยเดินทางพบ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" อาจเข้าข่ายผิดรธน. เปิดบุคคลภายนอกชี้นำ ถึงขั้นยุบพรรค พร้อมเช็ค พาสสปอต์ สองอดีตนายกฯ ไม่ชัดจ้างล็อบบี้ยีสต์

แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง  เปิดเผยว่า รัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังจับตาการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร และ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะให้ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับแกนนำ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบที่ประเทศจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง และ สิงคโปร์ เพราะอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาชี้นำ หรือ ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง หากมีความผิดอาจถึงขั้นยุบพรรค 

แหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคง ระบุอีกว่า นอกจากนี้ ยังให้ติดตามรายละเอียดว่าสองอดีตนายกรัฐมนตรีใช้หนังสือเดินทางประเภทอะไร หรือ มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวก ในการเดินทางเข้าออกยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงกรณีการจ้างล็อบบี้ยีสต์ในการติดต่อประสานงานการเข้าออก เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ปรากฎมีจังหวะ และขั้นตอน ที่สอดคล้องกัน คงจะมีการวางแผนด้วยการเลือกหาจังหวะเวลาที่ได้รับความสนใจเพื่อหวังดีสเครดีรัฐบาล และ คสช. 

" ยังไม่แน่ชัดว่า นายทักษิณ และ นส.ยิ่งลักษณ์ จ้างล็อบบี้ยีสต์ในการติดต่อประสานงานการเคลื่อนไหวหรือไม่ ทั้งนี้รัฐบาล และ คสช. ไม่แนวคิดที่จะจ้างล็อบบี้ยีสต์เพื่อตอบโต้ เพียงแต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินไปตามกฎหมาย และต้องทำงานอย่างหนักในการชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงมากขึ้น  เพราะประเทศไทยชัดเจนทุกอย่าง ซึ่งเรื่องนี้คงปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องดำเนินการ ไมาเช่นนั้นเหตุการณ์บานปลาย" แหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคง กล่าวและว่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ได้สั่งการชัดเจนแล้วว่า ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย  ใครจะไปบิดเบือนข้อมูลอย่างไร รัฐบาล และ คสช. จะต้องชี้แจงให้ชัดเจน ซึ่งอาจจะต้องชี้แจงในเชิงรุกมากกว่าการตั้งรับ โดยเฉพาะอยู่กับข้อเท็จจริง รัฐบาลไม่หนักใจเท่าไหร่ เพียงแต่ทำงานให้หนักมากขึ้น และมีมาตรการสร้างความเข้าใจมากขึ้น