สตช.ยื่นปปช.เอาผิดอดีต 6 บิ๊กขรก.จ.สตูล ทำเอกสารที่ดินเท็จเปิดช่องนายทุนรุกที่โรงพักหลีเป๊ะ 18 ไร่ เหลือเพียงครึ่งไร่ จ่อรื้อคดีเอาผิดเจ้าของรีสอร์ทหรู
เมื่อวันที่ 20 กุุมภาพันธ์ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการตรวจสอบกรณีรีสอร์ทก่อสร้างรุกพื้นที่ สภ.หลีเป๊ะ ที่เกาะหลีเป๊ะ พบว่า มีขบวนการออกเอกสาร ส.ค.1 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อนำไปขอเอกสาร น.ส.3 โดยมิชอบ และออกเกิน ส.ค.1 จำนวน 33 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา ซึ่งผู้ที่ร่วมกันจัดทำเอกสารเท็จ ประกอบด้วย อดีตปลัดอาวุโสเมืองสตูล / อดีตผู้ช่วยเกษตรจังหวัดฝ่ายวิชาการสตูล /อดีตพนักงานที่ดินจังหวัดสตูล / อดีตปลัดอำเภอเมืองสตูล / อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล / และ อดีตเจ้าหน้าที่วิชาการเกษตรจังหวัดสตูล ซึ่งทั้งหมดเกียษณอายุราชการแล้ว พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และส่งสำนวนการสอบสวนให้ ปปช. พิจารณาไต่สวนคดี เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2561 เพื่อให้ ปปช. พิจารณาชี้มูลยกเลิกเอกสาร ส.ค. 1 และเพิกถอน เอกสาร น.ส.3 รวมถึงยกเลิกแบบนับจำนวนอายุมะพร้าว เนื่องจาก การสอบสวนพบว่า ไม่มีการไปตรวจนับจำนวนมะพร้าวจริง โดยมีพยานบุคคลยืนยัน รวมถึง หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งทางธรณีวิทยา และปฐพีวิทยา จึงเชื่อว่า ที่ดินพิพาทดังกล่าว ก่อนที่ตำรวจจะได้รับอนุญาตจากวนอุทยาน ไม่มีการใช้ประโยชน์มาก่อน
ส่วนการดำเนินคดีกับ เจ้าของรีสอร์ท 2 แห่ง ที่สร้างกำแพงบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ระบุว่า ให้พนักงานสอบสวนรื้อฟื้นคดีอาญา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ขึ้นมาสอบสวนใหม่ เพื่อส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมให้อัยการพิจารณาดำเนินคดีกับ เจ้าของรีสอร์ท เนื่องจาก พบหลักฐานใหม่ อาทิ การนำชี้พิกัดที่ดินผิดสถานที่ / แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศผิดพลาด เนื่องจาก ภายหลังพบว่า พื้นที่พิพาทไม่มีที่อยู่อาศัย / มีการตรวจนับอายุมะพร้าวโดยมิชอบ
นอกจากนี้ ยังนำผลคำพิพากษาศาลฎีกา ระหว่างกรมตำรวจในขณะนั้นกับคู่กรณีที่พิพากษายกฟ้องกรมตำรวจ เนื่องจาก กรมตำรวจได้รับอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง ซึ่งมั่นใจว่า การรื้อฟื้นคดีมีหลักฐานใหม่ จะสามารถเอาผิดนายมานิตได้
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิระชัย ตรวจสอบ เนื่องจาก มีนายทุนบุกรุกวนอุทยานก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ท และขับไล่ สภ.หลีเป๊ะ รวมถึง บ้านพักตำรวจออกจากพื้นที่ ทั้งที่ สภ.หลีเป๊ะ ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินจากวนอุทยานเมื่อปี 2531 จำนวน 18 ไร่เศษ แต่เหลือที่ทำการของ สภ.หลีเป๊ะ เพียง 2 งาน