มท.1แจงลงพื้นที่ลุย 'ไทยนิยม' ใช้งบแบ่ง3กลุ่ม ให้กลุ่มละหนึ่งแสนล้านบ.

มท.1แจงลงพื้นที่ลุย 'ไทยนิยม' ใช้งบแบ่ง3กลุ่ม ให้กลุ่มละหนึ่งแสนล้านบ.

"พล.อ.อนุพงษ์" รมว.มหาดไทย แจงลงพื้นที่ลุยโครงการไทยนิยมฯ เผยใช้งบแบ่ง3กลุ่ม ให้กลุ่มละหนึ่งแสนล้านบาท ย้ำนายกฯจะมีการประเมินผู้ปฏิบัติงานด้วย

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ของโครงการไทยนิยมยั่งยืนว่า ทางพื้นที่มีความพร้อม ที่จะเริ่มโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งเราได้เน้นสองเรื่องตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีคือ 1.ต้องสะท้อนความต้องการของประชาชน 2.การดำเนินโครงการต้องมีความโปร่งใส โดยนายกรัฐมนตรีจะมีการประเมินผู้ปฏิบัติงานด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณนั้นการลงพื้นที่ครั้งแรก คือการพูดคุยสอบถามความต้องการของชาวบ้าน เพื่อเตรียมงานทำแผนงานโครงการต่อ และคาดว่าจะสอดคล้องกับ พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม พ.ศ.2561 ที่จะผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีกทั้งยังมีกลไกให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เติมเต็มการดูแลประชาชน

เมื่อถามว่าได้วางกรอบงบประมาณหลังกำหนดแผนงานไว้เท่าใด พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละหนึ่งแสนล้านบาท ประกอบด้วย 1.บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2.การพัฒนาให้เกิดความสามารถในการแข่งขัน โดยกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปดูความจำเป็น เช่น โอท็อป, การท่องเที่ยว เป็นต้น และ3.เรื่องเกษตรกรรม ในการปรับเปลี่ยนให้ประชาชนปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ และให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

เมื่อถามอีกว่ากังวลหรือไม่กับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ว่าไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรามั่นใจว่าจะเป็นไปด้วยดี เพราะสังคมเราดีได้สิ่งที่เราไปพูดก็เป็นเรื่องดี ไม่เคยกังวลเพราะเราไม่ได้ไปทำอะไรที่ไม่ดี คนที่กังวลก็คือคนที่ไม่ดี และการที่บ้านเมืองจะดีได้คนไทยต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย สื่อก็ต้องช่วยพูดแต่เรื่องที่ดี ไม่ใช่พูดแต่เรื่องแง่ร้าย ตนเชื่อมั่นว่าคนไทยพร้อมขับเคลื่อนประเทศตามแนทางไทยนิยทยั่งยืนเราต้องเจออะไรอีกเยอะ เช่นเรื่องความโปร่งใสที่ต้องระวังมาก เพราะมีทั้งคนที่หวังดี และอะไรก็แล้วแต่จึงต้องระวัง

เมื่อถามต่อไปว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาทางรัฐบาลเจอปัญญาต่างๆมามาก พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า “เข้าใจว่ามีเรื่องมาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่ใช่แค่ 2 เดือน คนไทยรู้อะไรดี สื่อก็พิมพ์ได้ทุกเรื่อง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีแม้แต่อาทิตย์เดียวที่ไม่มีเรื่อง ท่านหาเรื่องเขียนได้หมด น่าจะพอได้สักที และไทยนิยมยั่งยืนน่าจะแก้ปัญหานี้ได้”