'รังสิมันต์ โรม' เขาทำมาหากินอะไร ??

'รังสิมันต์ โรม' เขาทำมาหากินอะไร ??

“รังสิมันต์ โรม” นักต่อต้าน คสช. ที่เติบโตมาพร้อมการถือกำเนิดของ คสช. ช่วง 3 ปีกว่าที่ผ่านมานี้ เขาโดนไปแล้ว 7 คดี โดนจับเข้าเรือนจำแล้ว 3 รอบ (สัมภาษณ์พิเศษ)

“ผมไม่ได้อยากมาเคลื่อนไหวแบบนี้หรอก ผมเพิ่งเรียนจบมาได้แค่3ปี แต่วันนี้มันไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้ คสช.ยอมทำตามที่เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ เพราะฉะนั้นก็ต้องลงถนน” รังสิมันต์ โรม กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษ ชื่อของ “รังสิมันต์ โรม” ในฐานะนักกิจกรรม เติบโตมาพร้อมๆกับการเข้ามาของ คสช.

การทำกิจกรรมครั้งแรกที่ทำให้เขาถูกรวบตัวในฐานะผู้ต่อต้าน คสช. คือ “กินแซนวิซ” ที่พารากอน ตอนที่ คสช.เข้ามาครบ 1 เดือน ซึ่งเขาเล่าขำๆว่า ยังไม่ทันได้กิน ก็โดนรวบซะก่อน ตอนนั้นไม่ได้มีการดำเนินคดี แต่เป็นการเอาตัวไปเข้าค่ายทหาร ก่อนจะให้เซ็น “เอ็มโอยู” แล้วปล่อยตัวออกมา

ตอนนั้นเขาเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันเขาเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่คณะและมหาวิทยาลัยเดิม

ความจริง “โรม” เป็นนามสกุลของหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกันวัย 25 ปีคนนี้ แต่ถูกเรียกจนติดปาก และกลายเป็นชื่อเล่นของเขาไป เขาเป็นชาวภูเก็ต

คสช.อยู่มา 3 ปีกว่า “โรม” มีคดีที่เกิดจากการทำกิจกรรม “ต่อต้าน คสช.” ไปแล้วทั้งหมด 7 คดี โดนจับเข้าเรือนจำไปแล้ว 3 รอบ

akgjik7gabf7ceaa6bd8f

ท้อบ้างไหม ที่ต้องเจอคดี เจอคุกเจอตารางแบบนี้?

“เรื่องท้อก็มีตลอดเวลา เพราะเราก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา โดนคดีขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องปกติของคนอายุ25ปี แต่ถอยไหม บอกเลยว่าไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่ในหัวผม เพราะผมเชื่อว่าเวลาอยู่ข้างเรา เรามีแต้มต่อ เพราะเรายังอายุน้อย สู้ไม่ชนะวันนี้ วันข้างหน้าเราก็ต้องชนะ วันที่ คสช.ต้องสูญเสียอำนาจ วันที่ประเทศชาติกลับสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง”

โรม บอก ที่มั่นใจว่าพวกเขาจะชนะแน่ ๆ เพราะ หนึ่ง ระบอบของไทยนี้ไม่ใช่ระบอบปกติ ยังไงสักวันก็ต้องเป็นประชาธิปไตย เพราะเป็นกลไกที่เป็นสากล และ สอง เพราะเขายังอายุน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ คสช.ยังไงเวลาก็อยู่ข้างพวกเขา

ล่าสุด “โรม” ออกมาเคลื่อนไหวในนาม “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” มีการออกโรดแม็พกิจกรรมของกลุ่ม ซึ่งวางไปถึงช่วงครบ 4 ปี คสช. ที่ทางกลุ่มนัดชุมนุมแบบค้างคืน 4 วัน คือ 19-22 พฤษภาคม และจะสู้จนกว่าจะได้อำนาจกลับคืนมา

“โรม” บอกว่า พวกเขาเอาจริงเอาจังกับโรดแม็พนี้ เมื่อเป็นโรดแม็พก็ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง ไม่เหมือนโรดแม็พของ คสช.ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

“บิ๊กตู่ต้องไม่เป็นนายกฯ” ?

โรม บอก ตอนนี้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีเป้าหมาย 2 ข้อ คือ 1.ต้องมีการประกาศวันเลือกตั้งออกมา โดยต้องเป็นภายในเดือนพฤศจิกายนตามที่นายกฯเคยประกาศไว้ 2.ต้องสัญญาต่อประชาชนว่าจะไม่มีการสืบทอดอำนาจ

เมื่อถามถึงคำนิยามของการสืบทอดอำนาจ ว่าแค่ไหน หมายถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช.ต้องไม่เป็นนายกฯด้วยหรือไม่ โรม บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ มาตามกระบวนการปกติก็โอเค แต่ต้องไม่ใช่การใช้องคาพยพของ คสช.ในการกลับมาเป็นนายกฯ รวมทั้งต้องไม่เอาเปรียบคู่แข่งอย่างที่ปรากฏอยู่

อย่างไรก็ตาม โรม บอกว่า ตอนนี้ข้อเรียกร้องยังเป็น 2 ข้อนี้อยู่ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับท่าทีของ คสช. ว่าจะเอาอย่างไร ส่วนพวกเขาต้องการให้จบ ให้มีการเลือกตั้งภายในปีนี้ และต้องไม่มีการสืบทอดอำนาจ

“การเลือกตั้งเฉยๆจะไม่มีความหมาย ต้องมีการเลือกตั้งและต้องไม่มีการสืบทอดอำนาจ”

มาถึงคำถามที่ทางกลุ่มนักกิจกรรมจะต้องโดนแทบทุกครั้ง

พวกคนหน้าเดิม ?
"คนหน้าเดิมคืออะไร? ผมมองว่านี่เป็นเจตนาที่ต้องการดิสเครดิตพวกเรา ผมอยากให้ฟังสิ่งที่ผมพูดมากกว่า ถ้าสิ่งที่ผมพูดเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ก็ควรจะฟัง โดยเฉพาะเมื่อ คสช.ก็เคยบอกว่าเข้ามาเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่มาดิสเครดิตคนที่หวังดีกับประเทศชาติ

ผมว่าสังคมไทยควรตัดสินที่เนื้อหา มากกว่าดูว่าใครเป็นคนพูด อยู่สีไหน มีตำแหน่งอะไร ถ้าแบบนั้นประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้"

ทำมาหากินอะไรกัน?

“ตอนนี้ผมเรียนปริญญาโทอยู่ ที่บ้านยังสนับสนุนให้ผมเรียนต่อ รายได้หลักของผมมาจากทางบ้าน และผมก็มีรายได้อีกส่วนจากการเป็นผู้ช่วยอาจารย์”

จะตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยง ใครอยู่เบื้องหลัง?

“เรื่องนี้ คสช.ประกาศว่าจะตรวจสอบพวกผมมาเกือบ 4 ปีแล้ว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอ ถ้าเจอพวกเขาไม่ปล่อยพวกผมเอาไว้แน่ๆ ผมมองว่าข้อกล่าวหาแบบนี้เป็นเรื่องของการดิสเครดิตมากกว่า ในทางกลับกันถ้าเปรียบเทียบพวกผมกับ คสช. เราจะพบว่าตลอดเกือบๆ 4 ปีที่ผ่านมา ฐานะทางการเงินของผมไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย ยังเป็นนายรังสิมันต์ โรมคนเดิมที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต้านรัฐประหาร ขณะที่ คสช.กลับรวยมากขึ้นๆ ดังนั้นผมขอถามกลับว่าใครกันแน่ที่มีท่อน้ำเลี้ยง”

เป็นคนเสื้อแดง?

"จริงๆ ผมไม่มีแบกกราวน์ (ภูมิหลัง) เสื้อแดงเลย ถ้าเสื้อเหลืองอาจจะยังพอมี เพราะที่บ้านเขาเคยเป็น กปปส. และเคยมาร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯตอนที่มีการชุมนุม

ก่อนหน้านี้ที่บ้านผมเชียร์ คสช.มาก ไม่โอเคกับทักษิณ ถือว่าเป็นศัตรูของชาติ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะ แต่ถามว่าจะถึงขนาดมายืนในแนวทางเดียวกับผมไหม ก็ยังยาก เพราะเขายังไม่เห็นใครที่จะมาแทนที่พล.อ.ประยุทธ์ หรือ คสช. เขาไม่เอาเพื่อไทยแน่ แต่เขายังไม่เห็นตัวเลือกอื่น ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าเรื่องการไม่มีตัวเลือกนี่ก็เป็นปัญหา เหมือนหนีเสือปะจรเข้ แต่ผมว่าแม้เราอาจจะได้คนที่ไม่เก่ง แต่อย่างน้อยเขาก็จะไม่มาไล่จับประชาชน ไม่อนุญาตให้ประชาชนมีทางเลือก ผมว่าถ้าระบบเปิด เราอาจจะได้ทางเลือกที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ได้”

อนาคต “โรม” จะเป็นอย่างไร?

"ก็ต้องเรียนให้จบปริญญาโท ตอนนี้อยู่ปี3ต้องจบภายใน4ปี ผมอยากเป็นอาจารย์ ซึ่งการจะเป็นอาจารย์ก็คงต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็คงต้องหาทุนไป ตอนนี้ขอทำหน้าที่พลเมืองไทยก่อน ถ้าปีนี้มีเลือกตั้ง ผมก็คงกลับไปทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ

ผมมาจากครอบครัวชนชั้นกลาง ผมได้โอกาสจากสังคมพอสมควร ผมก็อยากตอบแทน ซึ่งคิดว่าการเป็นอาจารย์ ได้ทำงานอยู่กับเยาวชน คนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาอนาคตของชาติ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี"

สนใจเล่นการเมืองไหม?

"ตอนนี้ผมไม่มีแพสชั่นตรงนั้นเลย คิดว่าน่าจะมีคนที่สามารถทำหน้านั้นได้ดีกว่าผม"

คนกลัวการชุมนุม กลัวบรรยากาศการชุมนุมที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้?

"ผมเข้าใจความรู้สึกแบบนั้น เพราะช่วงนั้นก็แย่จริงๆ แต่คำถามคือ มีวิธีไหนนอกจากวิธีนี้ที่จะทำให้ประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย อนาคตแบบไหนที่เราจะหวังได้จากระบอบที่เป็นอยู่ ระบอบที่ไม่อนุญาตให้คนคิด ผมว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้ความกลัวม็อบ

ผมไม่ได้อยากมาเคลื่อนไหวแบบนี้หรอก ผมเพิ่งเรียนจบมาได้แค่ 3 ปี แต่วันนี้มันไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้ คสช.ยอมทำตามที่เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ เพราะฉะนั้นก็ต้องลงถนน

ผมว่า 3-4 ปีมานี้ คสช.สร้างความเสียหายให้ประเทศเยอะมาก คสช.ทำให้คนกลัวการออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้คนไม่มีความหวัง และไม่ได้ทำขึ้นเศรษฐกิจดีขึ้น ผมว่าถึงเวลาที่เราต้องกลับมาสร้างอนาคตประเทศอีกครั้ง"

แน่นอน โรม ยอมรับว่า ครอบครัวไม่แฮปปี้นักกับการที่เขาเป็นนักกิจกรรม และต้องมีคดีความมากมาย แต่เขาก็พยายามทำความเข้าใจกับครอบครัว

“แม้เราจะฝ่าฝืนสิ่งที่ทางบ้านคาดหวัง ต้องการ แต่ครอบครัวก็ไม่สามารถทำหน้าที่ดูแลเราได้ตลอดไป อนาคตเราก็ต้องดูแลตัวเองอยู่ในประเทศนี้ วันนี้ผมจึงขอทำหน้าที่พลเมืองไทยเพื่อสร้างอนาคตของประเทศเราก่อน” นักต่อต้าน คสช.กล่าวด้วยความมุ่งมั่น

**สัมภาษณ์พิเศษโดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์