'ปปง.' อายัดเงินคอลเซ็นเตอร์ส่งคืนเหยื่อ

'ปปง.' อายัดเงินคอลเซ็นเตอร์ส่งคืนเหยื่อ

"ปปง." ร่วม 3 แบงค์คืนเงินเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมให้ตำรวจเร่งเยียวยาผู้เสียหาย เผยหลังเปิดศูนย์ปฎิบัติการฯยับยั้งเงินได้ 20 ล้านบาท

นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับผู้แทนธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ส่งมอบเงินของผู้เสียหายบางส่วนที่สามารถยั้งยั้งการถอนจากมิจฉาชีพได้ รอบที่ 4 จำนวน 1,062,414 บาท ให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อบรรเทาความเสียหายให้ประชาชน 9 ราย ที่ได้ความเดือดร้อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้ามีการส่งมอบเงินของผู้เสียหายบางส่วนที่สามารถยั้งยั้งการถอนจากมิจฉาชีพได้รอบที่ 1 เมื่อวันที่ 15ธ.ค 60 จำนวน 3 ราย เป็นเงิน 1,494,329 บาท รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 12 ม.ค 61 จำนวน 5 ราย เป็นเงิน 316,010 บาท และรอบที่ 3 เมื่อวันที่ 2 ก.พ.61 จำนวน 6 ราย เป็นเงิน 1,481,548 บาท รวมทั้ง 4 รอบ เป็นเงิน 4,354,301 บาท

สำหรับสถิติการเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. มีผู้แจ้งผ่านสายด่วน ปปง. 1710 ตั้งแต่วันที่ 15พ.ย 60 จนถึงปัจจุบัน (18 ก.พ.61) มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงิน จำนวน 251 ราย เหตุเกิดแล้วรีบแจ้ง 117 ราย เหตุเกิดแล้วแจ้งภายหลัง 134 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 95,546,538.14 บาท สามารถยับยั้งและช่วยเหลือได้จำนวน 45 ราย มูลค่ารวม 20,334,491.74 บาท

นายพีระพัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มิจฉาชีพมีการหลอกลวงในหลายรูปแบบ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพมักจะอ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือการฟอกเงิน เพื่อหวังผลข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน โดยอ้างว่าหากผู้เสียหายต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์จะต้องนำหลักฐาน เช่น โฉนดที่ดิน บ้าน รถ สมุดบัญชีธนาคาร ส่งมาให้ตรวจสอบ ทำให้ผู้เสียหายตกใจกลัวจนหลงเชื่อและต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก