รัฐจับมือทุกภาคส่วน ชูหลักคิด 5 ประการ

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยคณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ซึ่งแต่งตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินหน้าผนึกกำลังกับเครือข่ายภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพื่อปลูกฝังหลักคิด 5 ประการสู่สังคม ได้แก่ ความพอเพียง มีวินัย สุจริต จิตสาธารณะ และมีความรับผิดชอบ ให้สอดรับกับโมเดลพัฒนาคนไทย 4.0 ในศตวรรษที่ 21

“หลักคิดทั้ง 5 ประการ จะช่วยให้คนไทยมีความเข้มแข็งทางจิตใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสามารถแก้ปัญหาชีวิตของตนเองด้วยวิถีทางที่ถูกต้องมากขึ้น ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น อบายมุข หรือยาเสพติด การไม่รักษาวินัย ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ขาดดุลพินิจในการพิจารณาสิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำ เป็นต้น นายกฯ ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุนการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว โดยในเร็วๆ นี้จะมีการประกาศเจตนารมณ์เพื่อขับเคลื่อนหลักคิดเพื่อพัฒนาคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 และรณรงค์ให้คนในสังคมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ผ่านองค์กรเครือข่ายต่างๆ โดยเฉพาะภาคประชาสังคมทั่วประเทศที่มีความเข้มแข็งเป็นอย่างมาก"

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยย้ำว่าหลักคิด 5 ประการ เป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตทั้งปวงที่จะช่วยเตือนสติและยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ซึ่งจะต้องเชื่อมโยงกับความดีงามตามแนวทางไทยนิยมยั่งยืน ที่จะนำพาสังคมไปสู่ความเจริญก้าวหน้า

ทั้งนี้ สำหรับคำจำกัดความของหลักคิดแต่ละด้าน ประกอบด้วย 1.ความพอเพียง หมายถึง การดำเนินชีวิตแบบมีเหตุผล คิดตัดสินใจอย่างรอบคอบ ไม่เบียดเบียนตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม 2.วินัย หมายถึง การยึดมั่นในหน้าที่ของตน ปฏิบัติตามจริยธรรม จรรยาบรรณ เคารพกฎหมาย 3.สุจริต หมายถึง ความซื่อสัตย์ ยึดมั่นในความจริง ความถูกต้อง และความเป็นธรรม 4.จิตสาธารณะ หมายถึง ใส่ใจต่อสังคม อาสาทำสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตน เพื่อหวังประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ และ 5.ความรับผิดชอบ หมายถึง รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองพูดและทำ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม