หลักฐานสำคัญคดีหวย 30 ล้าน คลิปเสียงพยาน 4 พันคลิป อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ -ด้านผบก.ป.ปฎิเสธตร.บังคับ “เจ๊บ้าบิ่น” เซ็นรับสารภาพ
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อรายงานความคืบหน้าคดีหวยอลเวงว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ได้เชิญตัว พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.เมืองกาญจนบุรี อีก 4 นาย ที่ดูแลสำนวนดังกล่าว ประกอบด้วย พ.ต.ท. 1 นาย, พ.ต.ต.1 นาย ร.ต.อ. 1 นาย และด.ต. อีก 1 นาย รวมถึงนางรัตนาพร หรือ เจ๊บ้าบิ่น นางพัชริดา หรือ เจ๊พัช และนายแผน ไม่ทราบนามสกุล พยานปากสำคัญฝ่ายครูปรีชา มาสอบสวนที่ สถานีตำรวจทางหลวง 6 กก. 2 บก.ทล. อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยมีการสอบปากคำอยู่อย่างยาวนาน กระทั่งเมื่อเวลา 23.00 น.ของวันเดียวกัน ทางผบช.ก.จึงได้เดินทางกลับ
ต่อจากนั้น มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ยังคงสอบปากคำพยานทั้ง 8 คน ต่อในประเด็นที่สงสัย ก่อนจะให้พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกับตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี 4 นาย และนายแผน กลับไปได้เมื่อช่วงกลางดึก แต่ก็ยังคงสอบปากคำเจ๊บ้าบิ่น กับ เจ๊พัช ต่อเนื่องจนถึงเวลา 05.00 น. ก่อนให้เจ้าหน้าที่พาตัวกลับไปส่งที่บ้านพัก โดยมีรายงานว่าทั้งเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัชอยู่ในสภาพที่อิดโรย และไม่ได้ให้ภาษณ์สื่อมวลชนที่ยังคงปักหลักเฝ้ารอแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.พ. ที่ โรงเรียนเทพมงคลรังสี ต. บ้านเหนือ. อ.เมืองกาญจนบุรี จ. กาญจนบุรี นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการโรงเรียนเทพมงคลรังสี เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีที่ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางภัทริดา พรหมตา หรือ เจ๊พัท และนายแผน พยานปากสำคัญ 3 ปาก ซึ่งถูกตำรวจกองปราบฯเชิญตัวไปสอบปากคำ เมื่อวานที่ผ่านมาว่า ตนยังไม่ได้ติดต่อกับบุคคลทั้ง 3 แต่ยังเชื่อว่าทั้ง 3 คนยังคงไม่กลับคำให้การ เพราะทุกคนพูดความจริง ส่วนกระแสที่อ้างว่าเจ๊บ้าบิ่นออกมายอมรับว่า ไม่ได้ขายล็อตเตอรี่ชุดนี้ให้ตนนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และขอเตือนประชาชนที่ติดตามข่าวนี้ ว่าให้รอฟังข่าวจากคนในพื้นที่ เพราะกระแสในโซเชียลส่วนใหญ่มักเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง
นายปรีชา กล่าวต่อว่า กรณีที่ถูก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปรียบเทียบว่าคดีจะเป็นเหมือนกับคดีครูจอมทรัพย์ 2 นั้น ตนเชื่อว่าคดีนี้คงไม่ซับซ้อนเท่าคดีของครูจอมทรัพย์ และเป็นคนละเรื่องกัน เพราะรายละเอียดของเรื่องนี้ เริ่มจากตนเดินทางมารับสลากที่ตลาด และทำสลากตกพื้น ระหว่างที่ทำหล่นก็มีคนมาเห็นมากกว่า 1 คน ส่วนเลขนี้ก็เป็นเลขเฉพาะ และต้องเป็นลูกค้าประจำเท่านั้นที่จะซื้อได้ ขณะเดียวกันตนก็อยากให้เรื่องนี้คลี่คลายต่อสังคมตามกรอบเวลาที่ตำรวจยืนยันว่า คดีนี้จะชัดเจนภายในเดือน ก.พ.นี้
นายปรีชา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมเครือข่ายช่วยเหลืออาชญากรรม ออกมาระบุว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดและมีหลักฐานยืนยันนั้น ตนขอยืนยันว่าขณะนี้ตนเองก็มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พอจะนำไปต่อสู้กับฝั่งคู่กรณีได้ 100 % โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาเสนอต่อโลกออนไลน์ เพื่อสร้างกระแส และไม่กังวลแม้ว่า ตำรวจจะยัดเยียดให้ตนและเจ๊บ้าบิ่น เป็นคนผิดและปั้นเรื่อง
นายปรีชา กล่าวอีกด้วยว่า ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ทนายความของตนจะขอถอนตัวนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง และจะไม่มีการเพิ่มหรือถอนตัวออกไป เพราะปัจจุบันนี้ก็มีทนายอยู่ 3 คนแล้ว ที่ผ่านมาก็ปรึกษาร่วมกันมาโดยตลอด ส่วนแนวโน้มทางคดีหลังจากนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสุดท้ายหากผลจะออกมาสรุปว่าตนจะเป็นเจ้าของหวยชุดนี้หรือไม่ ก็ต้องยอมรับในคำตัดสินของศาลอยู่แล้ว
ภายหลังจากนายปรีชา ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นแล้ว นายปรีชาเองก็พาสื่อมวลชนไปดูที่รถกระบะของตัวเองที่มีเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนได้เขียนข้อความให้กำลังใจที่รถว่า“สู้ๆ 30 ล้าน” อีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังจากพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม ได้เรียกตัวพยานปากสำคัญในคดีมาซักถามใหม่อีกครั้ง โดยมีรายงานจากพนักงานสอบสวนว่าผลที่ได้ก็ถือว่าเป็นไปในแนวทางที่ดี และคดีชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามผลการสอบสวนก็จะต้องรอนำมารวมกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยมีหลักฐานสำคัญอยู่ที่คลิปเสียงของพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 ,000 คลิป และอยู่ระหว่างนำส่งตรวจพิสูจน์ว่า คลิปหลักฐานทั้งหมดเป็นคลิปจริง และถูกตัดต่อมาหรือไม่ ทั้งการนำส่งพิสูจน์หลักฐานทั้งหมด ทางคณะพนักงานสอบสวน ต้องการทำให้หลักฐานทุกอย่างที่เก็บมาได้นั้นมีความถูกต้อง และปราศจากข้อกังขาใดๆจากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายด้วย
ต่อมาเวลา 13.20 น. ที่บก.ป. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับให้นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น เซ็นยอมรับสารภาพนั้นไม่เป็นความจริง นางรัตนาพรอยู่ในฐานะพยานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิ์กระทำการอย่างนั้น นอกจากนี้ขอยืนยันว่าไม่มีการนำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายที่เป็นเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าวมาสอบปากคำที่กองบังคับปราบปรามแต่อย่างใด แต่จะมีการเรียกสอบนั้นก็คงต้องหาสถานที่ที่มีความเหมาะสมกว่านี้ ทั้งนี้ยังไม่มีการสอบถึงขั้นตอนการกระทำความผิดของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการบกพร่องหรือไม่ ต้องทำตามขั้นตอนไป อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าไม่มีการควบคุมตัวพยานคนใดเมื่อมีการสอบปากคำเสร็จสิ้นก็ได้ให้ทั้งหมดกลับบ้านไป
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการประชุมสรุปสำนวนคดีในล็อตแรกภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ หรือ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง