บชน.ชี้แจงล็อคล้อรถเมล์มินิบัส ระบุจอดริมถนนสายหลักทำให้รถติดขัด
จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์แชร์คลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.โคกคราม ได้ดำเนินการใช้เครื่องมือบังคับล้อรถโดยสารประจำทาง สาย 71 อย่างไม่เป็นธรรม และเลือกปฏิบัติ นั้น
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ทางสน.โคกคราม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ดังนี้ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลาประมาณ 09.30 น.ขณะที่ ด.ต.ณัฐพัน พันธ์เพียร ผบ.หมู่ จร.สน.โคกคราม ได้ปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรและตรวจสอบสภาพการจราจร มาตามถนนนวมินทร์ พบเห็นรถโดยสารประจำทาง สาย 71 ทะเบียน 15-3317 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนเบญจมินทร์ ถนนนวมินทร์ขาเข้า โดยไม่พบผู้ขับขี่อยู่บนรถ ทำให้เสียการจราจรช่องซ้ายสุดไป 1 ช่องทาง ส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ชลอตัว จึงได้ทำการใช้เครื่องมือบังคับล้อพร้อมออกใบสั่งและใบเหลืองแจ้งเตือนติดไว้ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้ารถ
ต่อมาได้มีชายคนหนึ่งทราบภายหลังว่า เป็นผู้ขับขี่รถคันที่จอดไว้ ได้เดินถือถ้วยอาหารตรงมาหา ด.ต.ณัฐพัน พร้อมพูดจาต่อว่า เอะอะโวยวายที่ ด.ต.ณัฐพัน มาทำการบังคับล้อรถเอาไว้ และยังได้ขว้างถ้วยอาหารลงกับพื้น และได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ ตามที่ได้มีการเผยแพร่ไปในสื่อออนไลน์ ต่อมาได้มีผู้ขับขี่รถมาเฉี่ยวชนรถโดยสารประจำทางที่ถูกบังคับล้อไว้ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งผู้ขับรถคันที่เฉี่ยวชนยอมรับผิด และพนักงานของบริษัท ประกันภัย ได้มาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว
เมื่อผู้ขับขี่รถโดยสาร สงบสติอารมณ์ลงแล้ว พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับในส่วนค่าใช้เครื่องมือบังคับล้อ 500 บาท และข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอด 200 บาท รวมเป็นเงิน 700 บาท และด.ต.ณัฐพัน ได้ไปดำเนินการถอดเครื่องมือบังคับล้อออก จนมาทราบในภายหลังว่าผู้ขับขี่คนดังกล่าวได้เผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวที่ตนเองได้บันทึกไว้ไปในสื่อสังคมออนไลน์ตามที่ปรากฏ
การปฏิบัติหน้าที่ของ ด.ต.ณัฐพัน เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย และตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ได้มอบหมายสั่งการมา เรื่องให้กวดขับจับกุมผู้ขับขี่รถ จอดรถที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร เพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนโดยส่วนรวม อีกทั้งด.ต.ณัฐพัน ได้แสดงถึงความอดทนอดกลั้น มีวุฒิภาวะในการควบคุมสติปัญญา อารมณ์ แม้นว่าผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวจะพยายามพูดจาต่อว่าเอะอะโวยวายหรือแสดงอากัปกิริยามารยาทก้าวร้าวใส่ก็ตามที
ทั้งนี้มูลเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจาก รถโดยประจำทาง สาย 71 มีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวนหลายบริษัท แต่ละบริษัทที่ได้รับอนุญาตนั้น ไม่มีอู่หรือสถานที่ที่จัดไว้สำหรับจอดรถ ลักษณะการเดินรถเป็นการขับวนในเส้นทางที่ได้รับอนุญาตไปเรื่อยๆ ซึ่งพื้นที่ สน.โคกคราม นั้นเป็นต้นทางถนนนวมินทร์ทั้งขาเข้าและขาออก มีข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร และเครื่องหมายแสดงให้ทราบว่าเป็นเขตห้ามจอดตลอดเวลา เมื่อรถประจำทางสาย 71 ขับกลับมาถึงต้นทาง ก็มักจะจอดที่บริเวณป้ายรถประจำทางรอรับผู้โดยสารเป็นเวลานาน (จอดแช่ป้าย) และมักจะมาจอดต่อ ๆ กันจำนวนหลายคันเป็นประจำทุกวัน ทำให้เสียช่องทางการเดินรถช่องซ้ายสุดไป 1 ช่องทาง ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.โคกคราม ได้กวดขันวินัยจราจร ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใบอนุญาตขับขี่มาแสดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงทำได้เพียงออกใบสั่งในข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จอดรถในที่ห้ามจอดและกีดขวางการจราจร ซึ่งผู้ขับขี่ก็ไม่ยอมมาเสียค่าปรับแต่อย่างใด สน.โคกคราม จึงจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรไปอำนวยการจราจร กวดขันจับกุมผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทางสาย 71 ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร หากไม่พบผู้ขับขี่ให้ทำการใช้เครื่องมือบังคับล้อ เพื่อให้รีบมาเคลื่อนย้ายรถ และให้เกิดความเข็ดหลาบ ไม่กระทำความผิดอีก อย่างไรก็ตาม สน.โคกคราม จะได้เชิญเจ้าหน้าที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ประกอบการรถโดยสารทุกบริษัท ผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทาง สาย 71 มาประชุมทำความเข้าใจร่วมกัน เรื่องห้ามฝ่าฝืนกฎหมายจราจรโดยเด็ดขาด และมิให้เกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันต่อไป