เตือนภัย! 'โรคคาวาซากิ' ภัยร้ายในเด็ก

จากกรณีคุณพ่อรายหนึ่ง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก "Wasin K. Maddog" เตือนภัยโรคที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย โดยระบุว่า สัปดาห์ระทึกกับ "โรคคาวาซากิ" ภัยร้ายถึงชีวิตที่เกิดขึ้นในเด็ก ซึ่งชาวเน็ตต่างพากันไถ่ถามอาการขอให้เด็กหายป่วยโดยเร็ว และสอบถามรายละเอียดของโรคว่าเป็นอย่างไร

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 14 ก.พ. คุณพ่อรายนี้ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 02.00 น. ลูกชายตื่นขึ้นมาพร้อมกับร้องไห้หายใจไม่ออก และตัวร้อนวัดไข้ได้ 39.8 องศาฯ ต้องรีบหายาลดให้กิน แต่ไข้ไม่ลงแม้แต่น้อย จึงให้ลูกกินยาลดไข้ "ไอบูโพรเฟน" จนเช้ายาใกล้หมดฤทธิ์ ไข้ก็เริ่มขึ้นอีก จึงให้ลูกกินยา 2 ตัวคู่กันทุก 4 ชม. ตกกลางคืนไข้ขึ้นสูงวัดได้ 40 องศาฯ รู้สึกไม่ปกติแล้ว เพราะกลัวลูกจะเป็นไข้เลือดออก กระทั่งเช้าวันที่ 6 ก.พ. รีบไปที่โรงพยาบาลสินแพทย์ ลูกเบื่อนม ไม่อยากอาหาร ไข้ยังคงขึ้นสูงอยู่ตลอดทั้งคืน ต่อมาหัวค่ำวันที่ 7 ก.พ. รอบตาเริ่มบวมแดง ในใจคิดว่าร้องไห้มากจนตาบวม ซึ่งเมื่อผลเลือดออกมากลับไม่เจอเชื้อไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก แพทย์ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเชื้ออะไร จึงได้ยาลดไข้สูงมากินต่อ ไข้ลงจริงแต่หมดฤทธิ์ยาไข้ก็ขึ้นสูงอีก

"เริ่มมีผื่นขึ้นตามตัว ลูกเริ่มซึม ไข้ยังคงขึ้นสูงจนตกเย็นหมอแจ้งว่า ลูกมีอาการคล้ายโรคคาวาซากิ แต่ผลเลือดยังบอกไม่ได้ เราก็งงไม่เคยได้ยิน ลองหาข้อมูลดูมันอันตรายมาก และเกี่ยวข้องกับหัวใจ ซึ่งลูกเป็นโรคหัวใจรั่ว VSD อยู่ด้วย ผื่นที่ขึ้นขยายใหญ่ จึงตัดสินใจขอย้ายไปบำรุงราษฎร์ เพราะลูกมีหมอประจำตัวโรคหัวใจอยู่ที่นั่น" หนุ่มรายนี้ ระบุ 

คุณพ่อรายนี้ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อไปถึงได้พบแพทย์อีกคน แต่ยังบอกไม่ได้ จึงขอเจาะเลือดไปตรวจ จากนั้นให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจทำการเอคโคหัวใจในตอนนั้นเลย พบว่าลูกชายเริ่มมีน้ำรอบหัวใจ และค่าเม็ดเลือดขาวเริ่มขึ้นสูงแต่ไม่มากนัก แพทย์สรุปว่าเป็นโรคคาวาซากิแน่นอน โดยคลังยาแจ้งเรื่องค่ายา IVIG ราคา 138,000 บาท เมื่อให้ยาผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งวันที่ 13 ก.พ. แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยยังคงต้องติดตามอาการ และนัดทำเอคโคหัวใจอีก และต้องกินแอสไพรินครั้งละ 4 เม็ด วันละ 4 รอบ เพื่อป้องกันเลือดหนืดและแข็งตัว อย่างไรก็ตาม ค่ารักษาทั้งหมดรวมยอดประมาณกว่า 250,000 บาท

ขอบคุณภาพ : @Wasin K. Maddog