ไม่รอด!! ตร.รวบ 3 กระเทย ร่วมกันลักทรัพย์นายแบบ

ไม่รอด!! ตร.รวบ 3 กระเทย ร่วมกันลักทรัพย์นายแบบ

ไม่รอด !! รวบ 3 สาวประเภทสองสุดแสบร่วมกันลักทรัพย์นายแบบแดนกิมจิ ยังให้การภาคเสธ 2 ราย ด้านผู้เสียหายมอบช่อดอกไม้ขอบคุณตำรวจ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร และผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายณัฐลินี หรือนัท สีหมอก อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.พหลโยธิน 48 แยก 15 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ,นายอภิชฎา หรือกิ๊ฟ ผงงอย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.8 ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร และนายภัทธนันท์ หรือเอมี่ สุดาเดช อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 270/2561 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 พร้อมของกลาง อาทิ กระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหาย 1 ใบ บัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.30-02.40 น. ผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นนายแบบที่ได้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเข้า-ออกประเทศประมาณ 7-8 เดือน ได้ตามพี่ชายเข้ามาเรียนภาษาไทย เนื่องจากชื่นชอบภาษาไทยและแหล่งท่องเที่ยวของไทย ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนบริเวณถนนข้าวสาร หลังจากสถานบันเทิงปิดได้แยกย้ายกันกลับ ซึ่งมีสาวประเภทสองได้เข้ามาตีสนิทชักชวนพร้อมอาสาจะไปส่งที่คอนโดย่านสุทธิสาร ด้วยความมึนเมาผู้เสียหายจึงยอมให้ไปส่งถึงห้อง เมื่อถึงคอนโดหนุ่มชาวเกาหลีได้เข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวประมาณ 5-10 นาที จากนั้นเมื่อออกมาก็พบว่าทรัพย์สินมีค่า ได้แก่ เงินสดจำนวน 5,000 บาท กระเป๋าสตางค์ บัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือหายไป พร้อมกับสาวประเภทสองคนดังกล่าว จากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.สุทธิสาร และแจ้งตำรวจท่องเที่ยว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนพบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถระบุตำหนิรูปพรรณคนร้ายได้ชัดเจนจึงขอศาลอาญาออกหมายจับ เลขที่ 270/2561 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งตำรวจชุดจับกุมได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมนายภัทธนันท์ได้ที่พักอาศัยย่านนานา จากการขยายผลทราบว่านายภัทธนันท์ได้นำทรัพย์สินที่ได้ขโมยมาไปฝากไว้กับนายณัฐลินี และนายอภิชฎา เจ้าหน้าที่จึงติดตามผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางดังกล่าวที่ห้องพักย่านซ.พหลโยธิน 48

dfhc98icai98d5ii7cbb8

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกด้วยว่า พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยเกิน 35 ล้านคน ถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของประชากรประเทศไทย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวต่าวชาติอย่างจริงจังในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่นในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ย่านนานา ซึ่งการก่อเหตุดังกล่าวไม่ได้ทำเป็นขบวนการ เมื่อมีช่องโอกาสและความโลภคนร้ายก็จะก่อเหตุขึ้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลอย่างต่อเนื่องรวมถึงจัดการจัดเก็บดีเอ็นเอของคนร้ายที่ก่อเหตุอาชญากรรมต่อนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ไว้ในระบบเป็นฐานข้อมูลอีกด้วย

ทั้งนี้นายณัฐลินี และนานอภิชฎาได้ให้การภาคเสธ โดยรายณัฐลินีอ้างว่านายภัทธนันท์เพิ่งออกมาจากสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดหลังจากที่ถูกตำรวจ สน.ลุมพินี จับกุมได้ในคดียาเสพติด จึงได้มาขอพักอาศัยด้วย ซึ่งเสื้อผ้าที่นายภัทธนันท์สวมใส่ก่อเหตุเป็นเสื้อผ้าของตน ส่วนโทรศัพท์ของผู้เสียหายที่พบบนที่นอน ตนไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร และไม่รู้ว่านายภัทธนันท์ไปก่อเหตุมา ขณะที่นายภัทธนันท์รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะแถลงข่าวนายเจ หรือ Mr.Park jay ill ผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้ อายุ 30 ปี ได้นำช่อดอกไม้มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งได้ขอบคุณทุกคนที่ให้เบาะแสทางเฟซบุ๊ก และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่ช่วยกันติดตามจนสามารถจับกุมคนร้ายได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรกับนายณัฐลินี และนายอภิชฎา ส่วนนายภัทธนันท์ แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสารดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป