เครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ หนุนวาระสิทธิมนุษยชน ขับเคลื่อนประเทศไทย4.0

เครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ หนุนวาระสิทธิมนุษยชน ขับเคลื่อนประเทศไทย4.0

สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย ตัวแทนภาคธุรกิจเอกชนชั้นนำ สนับสนุนวาระแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

พร้อมเดินหน้าจับมือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิมนุษยชนเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ยกระดับธุรกิจไทยสู่สากล

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย เป็นตัวแทนภาคธุรกิจของไทย สนับสนุนวาระแห่งชาติของรัฐบาลเรื่อง “สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยกล่าวว่า สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย ซึ่งประกอบไปด้วย 15 องค์กรนำร่องจากภาคเอกชนมีเป้าหมายหลักคือการทำธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน ด้วยเหตุนี้จึงพร้อมที่จะร่วมผลักดันและส่งเสริมนโยบายสิทธิมนุษยชนของรัฐบาล โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิมนุษยชนให้กว้างขวางออกไป โดยสมาคมฯ จะร่วมมือกับผู้นำธุรกิจจากอุตสาหกรรมต่างๆ ผ่านองค์กรภาคเอกชนอื่น ๆ อาทิ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้ผู้นําธุรกิจของแต่ละอุตสาหกรรมมีบทบาทในการเคารพสิทธิมนุษยชน อาทิ การสร้างความตระหนักรู้ การแบ่งปันประสบการณ์การส่งเสริมนวัตกรรม และเมื่อผู้นําธุรกิจของแต่ละอุตสาหกรรมสามารถเคารพสิทธิมนุษยชนได้อย่างจริงจัง ก็จะช่วยยกระดับให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคู่ค้าและธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานสามารถรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจตน เพื่อแก้ไขและเคารพสิทธิมนุษยชนไปได้ด้วย ซึ่งกล่าวได้ว่าสอดคล้องกับวาระแห่งชาติของประเทศไทยที่จะขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนไปพร้อมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้โมเดลประเทศไทย 4.0 เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ประธานสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ กล่าวต่อไปว่า จากการประชุม World Economic Forum ณ เมืองดาวอส เมื่อเร็ว ๆ นี้ประเด็นเรื่องความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนในยุค 4.0 อาทิ อนาคตของแรงงาน เป็นเรื่องที่โลกควรให้ความสําคัญ การจะแก้ไขหรือป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้สําเร็จจําเป็นต้องอาศัยทั้งนโยบายที่เหมาะสมและความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งภาคเอกชนเองก็ยังต้องการการสนับสนุนด้านนโยบายจากภาครัฐด้วยเช่นกัน อาทิ การยกระดับการประกันสังคม และมาตรการเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเคารพสิทธิมนุษยชน เพราะการเคารพสิทธิมนุษยชนได้อย่างแท้จริงต้องเกิดขึ้นในธุรกิจทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากภาคประชาสังคมและประเทศอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์เรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน รวมทั้งองค์กรภายใต้สหประชาชาติก็จะช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจให้สามารถปรับตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ นายศุภชัย เชื่อมั่นว่าการประกาศ “วาระแห่งชาติ : สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความตั้งใจแน่วแน่ของทุกภาคส่วนของไทย ในการส่งเสริมและเคารพสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย 17 ข้อของสหประชาชาติโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในฐานะที่สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจเอง สมาคมฯ ขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายสิทธิมนุษยชน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริงในประเทศไทย