รัสเซียฝ่าหิมะหาเบาะแสเครื่องบินตก

รัสเซียฝ่าหิมะหาเบาะแสเครื่องบินตก

ทีมกู้ภัยและอาสาสมัครกว่า 900 คนยังคงค้นหาร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายต่อไป โดยใช้โดรนเข้าช่วย เนื่องจากพื้นที่ค้นหากว้างมาก

เครื่องบินโดยสารแบบอันโตนอฟ-148 สายการบินซาราตอฟ ประสบเหตุตกที่เขตราเมนสกี ห่างจากกรุงมอสโก ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 70 กิโลเมตร หลังจากทะยานขึ้นจากสนามบินโดโมเดโดโว เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น และหายไปจากจอเรดาร์เพียง 2 นาทีหลังจากนั้น ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิต 71 คน เมื่อวันจันทร์ (12 ก.พ.) 

ล่าสุด พนักงานสอบสวนและนักอาชญาวิทยาราว 100 คนลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมเบาะแสไขปริศนาหนึ่งในเหตุเครื่องบินตกร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า อาจจะเกิดจากความผิดพลาดของคน ปัญหาขัดข้องทางเทคนิคและสภาพอากาศเนื่องจากรัสเซียเผชิญหิมะตกหนักมากเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีการพูดถึงประเด็นก่อการร้าย

ก่อนหน้านี้  มีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนระบุว่า เห็นเครื่องบินไฟไหม้กลางอากาศก่อนตก ซึ่งบ่งว่าเครื่องยนต์อาจมีปัญหาและระเบิด

ด้านกระทรวงจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซีย ระบุว่า  พบกล่องดำ 1 ใน 2 กล่องแล้ว ขณะที่พนักงานสอบสวนทราบจุดเครื่องบินตกกระแทกพื้นซึ่งทำให้เกิดหลุมยาว 7 เมตร กว้าง 74 เมตร และลึกราว 1 เมตรครึ่ง

ในบรรดาผู้เสียชีวิตมีชาวสวิตเซอร์แลนด์ 1 คน อาเซอร์ไบจาน 1 คน และมีเด็กรวมอยู่ด้วย 3 คน เที่ยวบินมรณะกำลังมุ่งหน้าไปยัง เมืองในแถบเทือกเขายูราล แต่กว่า 60 คนบนเครื่องมาจากภูมิภาคโอเรนเบิร์ก ที่เมืองออร์สค์ ปลายทางของเที่ยวบินนี้ตั้งอยู่

ทั้งนี้ เมืองออร์สค์ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองในภูมิภาคโอเรนเบิร์ก มีประชากร 2.37 แสน อยู่ใกล้ชายแดนคาซัคสถาน

ทีมกู้ภัยและอาสาสมัครกว่า 900 คนยังคงค้นหาร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายต่อไป โดยใช้โดรนเข้าช่วย เนื่องจากพื้นที่ค้นหากว้างมาก เศษชิ้นส่วนเครื่องบินกระจายเกลื่อนครอบคลุมพื้นที่กว่า 187 ไร่ จึงคาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งสัปดาห์จึงจะตรวจสอบได้ทั่วถึง

นอกจากนี้  พื้นที่เกิดเหตุมีหิมะปกคลุมสูงถึงเอวในบางจุดทำให้การเข้าถึงเป็นไปอย่างยากลำบากทีมฉุกเฉินต้องเดินทางเข้าไปและใช้รถสโนว์โมบิล

เครื่องบินลำที่ประสบเหตุผลิตในรัสเซียมีรายงานว่าผ่านการใช้งานมาแล้ว 7 ปี สายการบินซาราตอฟซื้อมาจากสายการบินอีกแห่งเมื่อ 1 ปีก่อนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยกเลิกแผนการเดินทางไปยังเมืองตากอากาศโซชิ ริมทะเลดำเพื่อพบปะกับประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์ แต่เปลี่ยนมาจัดประชุมในกรุงมอสโกแทน