ดาวโจนส์ทะยานกว่า 400จุด

ดาวโจนส์ทะยานกว่า 400จุด

หลัง“ทรัมป์”เผยแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกระตุ้นศก.สหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์ (12ก.พ.)ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานขึ้นกว่า 400 จุด โดยฟื้นตัวขึ้น หลังจากทรุดตัวลงหนักที่สุดในสัปดาห์ที่แล้วในรอบ 2 ปี เพราะได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรส โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค รวมทั้งการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

แผนงบประมาณดังกล่าว มีการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 7.16 แสนล้านดอลลาร์สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการทหาร และการรักษาคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ ขณะที่มีการจัดสรรงบ 2 แสนล้านดอลลาร์สำหรับการใช้จ่ายด้านโครงการสาธารณูปโภค และตั้งวงเงินมากกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน และการตรวจคนเข้าเมือง

นอกจากนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดดุลงบประมาณ แผนงบประมาณฉบับนี้ได้เสนอให้มีการตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม ซึ่งจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปี

งบประมาณดังกล่าวยังรวมถึงการตั้งวงเงิน 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก และวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในกองทุนรัฐบาลกลางเพื่อกระตุ้นให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปีร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และรัฐบาลในมลรัฐ รวมทั้งภาคเอกชน

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 410.37 จุดหรือ 1.7 % ปิดที่ 24,601.27 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ขยับขึ้น 36.45 จุดหรือ 1.39% ปิดที่ 2,656 จุดและดัชนีแนสแด็ก  บวก 107.47 จุดหรือ 1.56 % ปิดที่ 6,981.96 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 5.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการปรับตัวย่ำแย่ที่สุดรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนม.ค.2559 ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยมีการทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดเป็นเวลา 2 วัน ขณะที่พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเป็นเวลา 2 วันเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ และจับตาการปรับตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครั้งใหม่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงส่งแรงขายในตลาดพันธบัตร ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อในสหรัฐ หลังเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.902% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.194%