จวก'ไทยนิยม'เป็นพรรคราชการ ใช้งบแสนล้านเพื่อเป้าการเมือง

จวก'ไทยนิยม'เป็นพรรคราชการ ใช้งบแสนล้านเพื่อเป้าการเมือง

"ณัฐวุฒิ" ชี้ไม่มีที่ไหนในโลก อยากเลือกตั้งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จวก "ไทยนิยมฯ" เป็นพรรคราชการ ใช้งบแสนล้านเพื่อเป้าการเมือง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ระหว่างที่รัฐบาลกำลังยืนยันกับต่างชาติว่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง รัฐบาลก็ไม่ควรฉีกหน้าตัวเองด้วยการใช้กำลังจำนวนมากไปกดดันกิจกรรมของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ในนามคนอยากเลือกตั้ง ที่ถนนราชดำเนินเมื่อวานนี้ เพราะไม่มีที่ไหนในโลกที่การประกาศว่าอยากเลือกตั้งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ยกเว้นประเทศเผด็จการเบ็ดเสร็จที่ไม่มีแนวคิดคืนอำนาจ ภาพการจัดสวนหย่อมปรับภูมิทัศน์บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่เอารั้วและเจ้าหน้าที่ไปขวางไว้ไม่ให้ใครเข้าใกล้ สะท้อนสถานการณ์ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ว่า ผู้มีอำนาจสร้างคำอธิบายที่สวยงามเรื่องโรดแม็พไปสู่ประชาธิปไตย แต่มีวิธีการมากมายสกัดและถ่วงรั้งไม่ให้ประชาชนเข้าถึงได้

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าผู้มีอำนาจก็อยากเลือกตั้ง ต่างกันตรงที่ประชาชนอยากให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่เคยประกาศไว้ แต่ผู้มีอำนาจต้องการแบบที่ควบคุมผลการเลือกตั้งได้เพื่อแปรสภาพจากรัฐบาลยึดอำนาจ เมื่อมีสัญญาณว่าจะไม่ได้ตามนั้นก็เลยยืดเวลาออกไปเรื่อยๆ ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่จะยืดไปได้แค่ไหน แต่ที่น่าคิดคือ ด้วยความเชื่อมั่นที่ลดลงทุกวัน จะยืนระยะไปจนถึงเวลาที่ต้องการได้อย่างไร

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนการลงพื้นที่ของโครงการไทยนิยมก็มีข้อน่าสังเกตว่าคล้ายกับการมีครู ก ครู ข ไปพบประชาชนตอนทำประชามติรัฐธรรมนูญ คราวนั้นรัฐธรรมนูญผ่าน จึงคิดจะใช้โมเดลเดียวกันเพื่อประโยชน์ในสนามเลือกตั้งหรือไม่ เพราะการบรรจุทุกเป้าหมายทั้งเศรษฐกิจ สังคม ปรองดอง ประชาธิปไตยลงในโครงการนี้ ตนยังมองไม่ออกว่าจะสำเร็จได้อย่างไร ถ้ามีเป้าหมายเรื่องการเลือกตั้งจริงก็เท่ากับมีบางฝ่ายใช้ทรัพยากรของรัฐทั้งคนจำนวนมากและงบประมาณอีกกว่า 100,000 ล้านบาทเพื่อเป้าหมายทางการเมือง กลายเป็นพรรคราชการลงพื้นที่ในขณะที่พรรคการเมืองในระบบยังติดล็อคอยู่ ในสังคมประชาธิปไตยเรื่องแบบนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่

"ผมเชื่อว่าประชาชนรู้ทัน เพราะมีบทเรียนกับอำนาจเผด็จการมาแล้วเกือบ 4 ปี ถึงเวลาก็คงได้รู้กันว่า ระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน ใครกันแน่ที่เป็นคนใจเพชรตัวจริง" แกนนำนปช.กล่าว